หลักความสำเร็จของผู้เชื่อจากสภษ.16:1-3

ทุกคนต้องการความสำเร็จ แต่ความสำเร็จที่ว่าคือการทำบาปหรือทำตามน้ำพระทัย พระเจ้าให้หลักการว่า จงติดสนิทดำเนินไปกับพระเจ้าตลอดเวลา

เกริ่นนำ :

            มนุษย์ทุกคนมองหาความสำเร็จอยู่เสมอ บางคนอาจคิดฝันว่าโตขึ้นจะเป็นอะไร บางคนวางแผนเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้าหรือไกลกว่า ส่วนบางคนกำลังทำงานหาเงินเพื่อค่าใช้จ่ายวันนี้ หรือจ่ายหนี้สินรายวัน ทุกคนต้องการความสำเร็จ ความสำเร็จแต่ละวันเกี่ยวข้องกับการมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือเป็นจุดมุ่งหมายการมีชีวิตอยู่ต่อไป

            ทุกยุคทุกสมัยจึงมีผู้พยายามศึกษาและรวบรวมหลักความสำเร็จ เป็นความรู้วิชาที่สอนบ่อยและมีผู้เรียนมากมาย

คำถามก่อนเรียน :

            1) ท่านให้ความสำคัญต่อความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน จงอธิบาย

            2) ยกตัวอย่างหลักหรือแนวทางความสำเร็จ

            ในความเชื่อคริสเตียน พระเจ้าประทานหลักความสำเร็จให้แล้ว ไม่ต้องดิ้นรนหาด้วยตัวเอง สภษ.16:1-3 เป็นตัวอย่างบางหลักการที่พระองค์ให้ไว้ ดังนี้

            อ่าน สภษ.16:1-3

1 แผนงานของดวงความคิดเป็นของมนุษย์ แต่คำตอบของลิ้นมาจากพระเจ้า

To humans belong the plans of the heart, but from the LORD comes the proper answer of the tongue.

2 ทางทั้งสิ้นของมนุษย์ก็บริสุทธิ์ในสายตาของเขาแต่พระเจ้าทรงชั่งจิตใจ

All a person’s ways seem pure to them, but motives are weighed by the LORD.

3 จงมอบงานของเจ้าไว้กับพระเจ้า และแผนงานของเจ้าจะได้รับการสถาปนาไว้

Commit to the LORD whatever you do, and he will establish your plans.

หลักความสำเร็จของผู้เชื่อ จากสภษ.16:1-3

1. มนุษย์คิดได้แต่ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นกับพระเจ้า

          1.1 พระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีสมองคิด มีเสรีภาพในการตัดสินใจ (1ก)

            พระเจ้าสร้างอาดัม เอวา ให้มีสมองคิด มีเสรีภาพในการตัดสินใจ

            อาดัมมีสติปัญญาตั้งชื่อสัตว์ต่างๆ และได้รับสิทธิอำนาจในการคิดตัดสินใจ สามารถคิดและใช้ความคิดในกิจกรรมงานต่างๆ ตามที่เขาเห็นควร สัตว์ต่างๆ มีจึงชื่อเรียกตามการตัดสินใจของอาดัม

ปฐก.2:19-20

19 พระเจ้าจึงทรงปั้นบรรดาสัตว์ในท้องทุ่งและนกในท้องฟ้าให้เกิดขึ้นจากดิน แล้วทรงนำมายังชายนั้น เพื่อดูว่าเขาจะเรียกชื่อมันว่าอะไร ชายนั้นตั้งชื่อสัตว์ทั้งปวงที่มีชีวิตว่าอย่างไร สัตว์นั้นก็มีชื่ออย่างนั้น

20 ชายนั้นจึงตั้งชื่อบรรดาสัตว์ใช้งานและนกในอากาศและบรรดาสัตว์ป่า แต่ชายนั้นยังหามีคู่อุปถัมภ์ที่สมกับตนไม่

            ความสามาถนี้รวมถึงการตัดสินใจเชื่อฟังหรือไม่เชื่อฟังพระเจ้า

            เรื่องการทำบาปที่สวนเอเดน เอวาถูกมารหลอกว่ากินผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวนจะไม่ตาย

ปฐก.3:1-4

1 ในบรรดาสัตว์ป่าที่พระเจ้าทรงสร้างนั้น งูฉลาดกว่าหมด มันถามหญิงนั้นว่า "จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้ามว่า 'อย่ากินผลจากต้นไม้ใดๆ ในสวนนี้'

2 หญิงนั้นจึงตอบงูว่า "ผลของต้นไม้ต่างๆ ในสวนนี้เรากินได้

3 เว้นแต่ผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวนนั้น พระเจ้าตรัสห้ามว่า 'อย่ากินหรือถูกต้องเลย มิฉะนั้นจะตาย'

4 งูจึงพูดกับหญิงนั้นว่า "เจ้าจะไม่ตายจริงดอก

            งูซึ่งเป็นการนำเสนอเชิงสัญลักษณ์หมายถึงมาร พูดถูกเพียงครึ่งเดียวคือไม่ตายทันที แต่เมื่อกินแล้วขาดจากชีวิตนิรันดร์ในสวนเอเดน มีอายุขัย ร่างกายนี้ต้องตายในที่สุด

            อาดัมไม่โดนหลอกแต่แทนที่จะเชื่อฟังพระเจ้ากลับไปตามทำตามที่เอวาบอก กินผลไม้ต้องห้ามด้วย

ปฐก.3: 12-13

12 ชายนั้นทูลว่า "หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กินกับข้าพระองค์นั้น ส่งผลไม้นั้นให้ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงรับประทาน"

13 พระเจ้าตรัสถามหญิงว่า "เจ้าทำอะไรไป" หญิงนั้นทูลว่า "งูล่อลวงข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงได้รับประทาน"

            ข้อสรุปสำคัญคืออาดัม “คิดและตัดสินใจ” ขอไม่ฟังคำสั่งพระเจ้าซึ่งหมายถึงทำบาป

1ทธ.2:14 และอาดัมไม่ได้ถูกหลอกลวง แต่ผู้หญิงนั้นได้ถูกหลอกลวงจึงได้กระทำบาป

            แท้จริงแล้วทุกคนคิด แต่ละวันมีเรื่องคิดมากมายตั้งแต่เรื่องเล็กจนถึงเรื่องใหญ่ เช่น วันนี้ใส่เสื้อตัวไหนดี จะเดินทางไปที่ทำงานอย่างไร ใช้เวลานานคิดหาคำตอบโจทย์การบ้าน วันนี้จะคุยกับสามีอย่างไร จะสอนลูกเรื่องใดพูดอย่างไร ประชุมนโยบายพัฒนาถนนอำเภอ ฯลฯ

          1.2 พระเจ้าควบคุมความเป็นไปของโลก ความเป็นไปของชีวิต (1ข)

            ทุกคนคิดได้และคิดมากมายแต่สุดท้ายสรรพสิ่งเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นและเป็นไปตามน้ำพระทัย

โยบ.9:24  แผ่นดินโลกนี้ทรงมอบไว้ในมือของคนอธรรม พระองค์ทรงปิดหน้าบรรดาผู้วินิจฉัยโลก ถ้าไม่ใช่พระองค์ แล้วใครเล่า

When a land falls into the hands of the wicked, he blindfolds its judges. If it is not he, then who is it?

โยบ.12:23-25

23 พระองค์ทรงกระทำประชาชาติให้ใหญ่โต และพระองค์ทรงทำลายเสีย พระองค์ทรงขยายบรรดาประชาชาติ และทรงนำเขาทั้งหลายไปเป็นเชลย

24 พระองค์ทรงนำความเข้าใจไปเสียจากหัวหน้าชาวโลก และทรงกระทำให้เขาพเนจรไปในถิ่นทุรกันดารซึ่งไม่มีหนทาง

25 เขาทั้งหลายคลำอยู่ในความมืด ปราศจากความสว่างและพระองค์ทรงทำให้เขาโซเซอย่างคนเมา

โยบ.14:5 วันเวลาของเขาถูกกำหนดไว้เสียแล้ว และจำนวนเดือนของเขาก็อยู่กับพระองค์ พระองค์ทรงกำหนดขอบเขตของเขาไม่ให้เขาผ่านไปได้

A person’s days are determined; you have decreed the number of his months and have set limits he cannot exceed.

สดด.13:13-20

13 พระเจ้าทอดพระเนตรจากฟ้าสวรรค์ พระองค์ทอดพระเนตรบุตรทั้งปวงของมนุษย์

14 จากที่ซึ่งพระองค์ประทับพระองค์ทอดพระเนตร เหนือชาวแผ่นดินโลกทั้งสิ้น

15 คือพระองค์ผู้ทรงประดิษฐ์จิตใจของเขาทั้งหลายทุกคน และทรงพิจารณากิจการของเขาทั้งหลายทั้งสิ้น

16 กองทัพใหญ่หาช่วยให้พระราชาองค์หนึ่งองค์ใดรอดพ้นไปไม่ กำลังอันมากมายก็ไม่ช่วยกู้นักรบได้

17 ม้าศึกจะเป็นที่หวังความมีชัยก็หาไม่ กำลังมหาศาลของมันก็ช่วยให้รอดไม่ได้

18 ดูเถิด พระเนตรของพระเจ้าอยู่เหนือผู้ที่ยำเกรงพระองค์ เหนือผู้ที่หวังในความรักมั่นคงของพระองค์

19 เพื่อพระองค์จะทรงช่วยกู้จิตวิญญาณของเขาจากมัจจุราช และให้เขาดำรงชีวิตอยู่ได้ในเวลากันดารอาหาร

20 จิตวิญญาณของเราทั้งหลายรอคอยพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นความอุปถัมภ์และเป็นโล่ของเรา

            สรุป หลักสำคัญของข้อ 1 คือพระเจ้าให้มนุษย์คิดได้แต่ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นกับพระเจ้า ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าที่เราคิดนั้นตรงตามน้ำพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน ถ้ามากสำเร็จไวสำเร็จมาก

            2. ผู้เชื่อคิดว่าดีแล้ว-ถูกแล้ว-เหมาะสมแล้ว แต่พระเจ้าอยากรู้ว่าเขาจะคิดตัดสินใจตามน้ำพระทัยหรือไม่ (2)

            มนุษย์ในที่นี้เน้น “ผู้เชื่อ” เป็นคำสอนที่พระเจ้าเน้นสอนผู้เชื่อ

            ไม่ว่าจะยึดหลักชนชาติอิสราเอลที่พระเจ้าเลือกสรรหรือคริสเตียนคนของพระองค์ เมื่อพวกเขาคิดตัดสินใจพระเจ้าอยากรู้ว่าเขาจะคิดตัดสินใจตามน้ำพระทัยหรือไม่

            ข้อนี้ย้อนหลังกลับที่อาดัมในสวนเอเดน เขาจะเลือกเชื่อฟังหรือทำบาป

            เขา “ตั้งใจ” เชื่อฟังหรือทำบาป (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

            อธิบายขยายความ : ในชีวิตจริง บางคนอาจเชื่อฟังบางส่วน เชื่อฟังไม่เต็มที่ รับใช้บ้างไม่รับใช้บ้าง ดำเนินชีวิตในความชอบธรรมบางเรื่องและตัดสินใจทำบาปบางเรื่อง ขึ้นกับการตอบสนอง ความเติบโตฝ่ายวิญญาณ ทั้งหมดนี้พระองค์ตรวจสอบและพิพากษา

          บางคนอธิษฐานหลายเรื่องแต่ได้รับคำตอบไม่กี่เรื่อง ทั้งๆ ที่เขาอธิษฐานอย่างหนัก อธิษฐานทุกเช้า บางคนอดอาหารอธิษฐานแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ เหตุที่ไม่ได้รับคำตอบอาจเป็นเพราะพระเจ้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ขอ ดังนั้นต่อให้อธิษฐานอีกนานแค่ไหนก็จะไม่ได้ ที่ควรทำคือแสวงหาพระเจ้า แสวงหาน้ำพระทัย อธิษฐานขอการทรงนำ ขอให้สามารถทำตามน้ำพระทัย

          ทุกครั้งที่อธิษฐานต้องไม่พลาดขอการทรงนำ ทำตามที่พระองค์ประสงค์ไม่ใช่ที่ตัวเราต้องการ (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

3. จงผูกติดงานกับพระเจ้า (3)

สภษ.16:3 จงมอบงานของเจ้าไว้กับพระเจ้า และแผนงานของเจ้าจะได้รับการสถาปนาไว้

Commit to the LORD whatever you do, and he will establish your plans.

            รากศัพท์ “Commit” (จงมอบงาน) คือ  גָּלַל (อ่าน gaw-lal') ความหมายตรงตัวคือ ม้วนตัว ดำเนินการ (to roll) กลิ้งออกไป เคลื่อนออกไป (roll away)

            รากศัพท์นี้ใช้ในที่อื่น เช่น ใช้ในความหมายกลิ้ง

ยชว.10:18 โยชูวาจึงกล่าวว่า "จงกลิ้งก้อนหินใหญ่ปิดปากถ้ำเสีย และวางยามให้เฝ้ารักษาไว้

สภษ.26:27 บุคคลที่ขุดหลุมพราง เขาจะตกลงไปเอง ผู้ใดให้ก้อนหินกลิ้งมา มันจะกลับทับเขาเอง

             ความหมาย “Commit to the LORD whatever you do” ตีความว่าให้ดำเนินไปกับพระเจ้าตลอดเวลา ไม่เฉพาะบางเวลาที่คิดถึงงานแต่เป็นตลอดเวลา

            ดังนั้น จึงไม่ใช่แค่อธิษฐานแล้วจบ แต่ผูกติดกับพระเจ้า ให้ภาพเหมือนกลิ้งไป (เคลื่อนไป) กับพระองค์ ไปด้วยกันตลอดเวลา เป็นวิถีชีวิตที่ผูกติดกับพระเจ้า ไม่ใช่รอมีปัญหามีความต้องการแล้วจึงมาอธิษฐาน

            เป็นวิถีชีวิตที่ผูกติดกับพระเจ้า ไม่ใช่รอมีปัญหามีความต้องการแล้วจึงมาอธิษฐาน (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

            อธิบายขยายความ : หลักการผูกติดกับพระเจ้าไม่ขัดแย้งกับอธิษฐาน คริสเตียนควรอธิษฐาน ตั้งเวลาอธิษฐาน เป็นเวลาเพื่อการอธิษฐานอย่างเจาะจง อธิษฐานขอการทรงนำ ขอกำลังที่มาจากพระเจ้าให้สามารถทำตามน้ำพระทัย ในขณะเดียวกันพระเจ้าสอนให้ผู้เชื่อติดสนิทสัมพันธ์พระองค์ เป็นวิถีชีวิตผู้เชื่อ ผู้ที่สัมพันธ์สนิทอยู่ในการทรงนำ พระองค์ปรับก้าวย่างของเขาเสมอไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่

ข้อเตือนใจ :

          1. ความสำเร็จเทียม

            ผู้คนมากมายต้องการความสำเร็จ แสวงหาความสำเร็จและพยายามไปให้ถึง บางคนยอมทำผิดบาปมากมายเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ แน่นอนว่าพวกเขาทำผิดต่อพระเจ้าไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ สังเกตว่าความต้องการสำเร็จเช่นว่าเป็นต้นเหตุทำบาป ยิ่งต้องการมากยิ่งทำบาปมาก จึงไม่ใช่ความสำเร็จแท้แต่ติดกับดักมาร ชีวิตอยู่ในวิถีบาป

            ยกตัวอย่าง

            นาย ก อยากเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ทำงานขยันขันแข็ง เก็บสะสมมากมาย ร่ำรวยขึ้นตามลำดับ ต่อมานาย ก ทำธุรกิจหวังรวยกว่าเดิม เรียนรู้ทำธุรกิจที่เอาเปรียบคดโกงลูกค้า ความอยากรวยเป็นเศรษฐีร้อยล้านชักนำให้เขาใช้วิธีที่ถูกและผิด

            นาย ข เป็นคนหนุ่มวัย 20 คิดว่าความสำเร็จในวัยของเขานอกจากมีงานทำ มีรายได้เลี้ยงดูตัวเองกับครอบครัว ยังต้องการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงจำนวนมาก คิดว่าเป็นกำไรชีวิต แม้นาย ข แต่งงานมีลูกยังพยายามคบผู้หญิงมากหน้าหลายตา มีความสัมพันธ์ชู้สาวอยู่เสมอ พยายามหาความสุขจากเพศสัมพันธ์ นาย ข คิดว่าเขาไม่ได้ทำผิดอะไร ตนได้เลี้ยงดูภรรยาลูกตามสมควร ส่วนการคบหาหญิงอื่นจำนวนมากเป็นความสมัครใจของทั้งชายกับหญิง ไม่ได้บังคับใคร แต่ในทางของพระเจ้านาย ข กำลังทำบาป มาตรฐานพระเจ้าคือต้องสัตย์ซื่อต่อหญิงคนเดียว (ภรรยา) เท่านั้น

            นาง ค เป็นชาวสวนปลูกผักขาย บางครั้งนาง ค ฉีดยาฆ่าแมลงแล้วส่งขายทั้งๆ ที่มีสารเคมีค้างจำนวนมาก นาง ค รู้ดีว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแต่พูดกับตัวเองว่านิดหน่อย ไม่เห็นใครกินแล้วตาย (ทันที) อีกทั้งคนซื้ออยากได้ผักใบสวยไม่มีรูหนอนแมลง จึงขายผักที่มีสารอันตรายปนเปื้อน เรื่องนี้นาง ค ทำบาป

          2. ความสำเร็จแท้

            ยกตัวอย่าง คริสเตียนอธิษฐานขอให้มั่งมีเป็นเศรษฐีร้อยล้านได้ ถ้ามีสิ่งนี้เพื่อถวายเกียรติพระเจ้า พระองค์อยากให้ “บางคน” เป็นเศรษฐีร้อยล้าน เป็นอภิมหาเศรษฐีโลก แต่ผู้เชื่อที่เข้าใจจะแสวงหาน้ำพระทัย แสวงหาการทรงเรียกส่วนตัวก่อน ด้วยว่าพระเจ้าอยากให้บางคนเป็นแค่คนธรรมดา อยู่กินใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปในชุมชนที่อาศัยอยู่ และทุ่มเทเวลารับใช้ตามการทรงเรียกที่ไม่ใช่การเป็นเศรษฐี

            ดังนั้น โดยพื้นฐานแล้วการขอให้ร่ำรวยมั่งคั่งไม่ผิด แต่ควรมุ่งแสวงหาน้ำพระทัยและดำเนินตามนิมิตการทรงเรียกที่สำคัญยิ่งกว่า

          2.1 พระเยซูสอนว่า ....

มธ.6:31 -33

31 เหตุฉะนั้นอย่ากระวนกระวายว่า จะเอาอะไรกิน หรือจะเอาอะไรดื่ม หรือจะเอาอะไรนุ่งห่ม

32 เพราะว่าพวกต่างชาติแสวงหาสิ่งของทั้งปวงนี้ แต่ว่าพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่า ท่านต้องการสิ่งทั้งปวงเหล่านี้

33 แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้

            คำว่า “พวกต่างชาติ” หมายคนคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า พวกที่นมัสการพระอื่น

            มาตรฐานขั้นต่ำของความสำเร็จแท้ไม่ใช่สิ่งที่บำรุงชีวิตขณะอยู่ในโลก ไม่ใช่สิ่งใดๆ ที่ติดตัวไปไม่ได้เมื่อหมดลมหายใจ แต่เป็นวิถีแห่งความชอบธรรมที่กำหนดไว้แล้วว่านำท่านสู่ชีวิตนิรันดร์

            ความสำเร็จแท้ขั้นสูงคือการทำตามนิมิตการทรงเรียก ส่วนสิ่งอื่นๆ นั้นพระองค์จะให้ตามน้ำพระทัยอย่างครบบริบูรณ์ (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

            จงสรรเสริญขอบคุณพระองค์สุดชีวิต ถ้าท่านกำลังอยู่ในการทรงนำบนทางแห่งความสว่าง

            คนเขลากับคนมีปัญญาจึงวัดไว้ด้วยการสรรเสริญขอบพระคุณ ใครมีหูจงฟังเถิด

คำถามหลังคำสอน :

            1) ควรหาความสำเร็จที่มาจากการทำบาปหรือไม่ เพราะเหตุใด

            2) ท่านจะทำอย่างไรเพื่อติดสนิทพระเจ้า บอกวิธีการที่เป็นรูปธรรม

---------------------------