บทเรียน 6 ทำไมความยำเกรงพระเจ้าคือพระปัญญา

 ความยำเกรงพระเจ้าเป็นพระปัญญาที่จะนำผู้ที่พระองค์เลือกสรรให้ได้รับความรอด รับการทรงนำตลอดชีวิตของเขา เป็นตัวแทนพระองค์ในโลกนี้

โยบ บทที่ 28 เริ่มต้นสอนว่าปัญญาของพระเจ้าเป็นของล้ำค่าหายาก และอธิบายว่าทำไมความยำเกรงพระเจ้าคือพระปัญญา

อ่าน โยบ บทที่ 28

คำถามก่อนเรียน :

1) ท่านคิดว่าสังคมให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุด เป็นสิ่งมีค่ามากที่สุด

2) ส่วนตัวท่านคิดว่าอะไรคือสิ่งล้ำค่ามากที่สุด มีค่ามากที่สุด

ทำไมความยำเกรงพระเจ้าคือพระปัญญา : 

1. ของล้ำค่าหายาก

โยบ.28:1-11

เริ่มต้นด้วยการบรรยายว่าของล้ำค่าในโลกหายากไม่ได้มาง่ายๆ

โยบ.28:2-4

2 เขาเอาเหล็กมาจากพื้นดิน และถลุงทองแดงจากแร่ดิบ

3 มนุษย์กำจัดความมืด และค้นหาไปยังเขตไกลที่สุด ค้นแร่ดิบในที่มืดครึ้มและที่มืดทึบ

4 เขาขุดปล่องไกลจากที่ฝูงคนอาศัยอยู่ คนสัญจรไปมาลืมเขาแล้ว เขาแขวนอยู่แกว่งไปแกว่งมาไกลจากฝูงคน

2. พระปัญญาเป็นเป็นของล้ำค่า 

โยบ.28:12-17 ชี้ว่าพระปัญญาเป็นของล้ำค่าหายากยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลกที่บอกว่าหายาก ไม่ใช่ทุกคนจะหาได้

โยบ.28:12-17

12 "แต่จะพบพระปัญญาที่ไหน และที่ของความเข้าใจอยู่ที่ไหน

But where can wisdom be found? Where does understanding dwell?

13 มนุษย์ไม่รู้จักค่าของพระปัญญา และในแผ่นดินของคนเป็นก็หาไม่พบ

14 บาดาลพูดว่า "ที่ข้าไม่มี" และทะเลกล่าวว่า "ไม่อยู่กับข้า"

15 จะเอาทองคำซื้อก็ไม่ได้ และจะชั่งเงินให้ตามราคาก็ไม่ได้

16 จะตีราคาเป็นทองคำโอฟีร์ก็ไม่ได้ หรือเป็นโกเมนหรือแก้วไพฑูรย์ประเสริฐก็ไม่ได้

17 จะเทียบเท่าทองคำและแก้วก็ไม่ได้ หรือจะแลกกับเครื่องทองคำนพคุณก็ไม่ได้

2.1 คนทั่วไปไม่พบ (12-14)

โยบ.28:12-14

12 "แต่จะพบพระปัญญาที่ไหน และที่ของความเข้าใจอยู่ที่ไหน

But where can wisdom be found? Where does understanding dwell?

13 มนุษย์ไม่รู้จักค่าของพระปัญญา และในแผ่นดินของคนเป็นก็หาไม่พบ

14 บาดาลพูดว่า "ที่ข้าไม่มี" และทะเลกล่าวว่า "ไม่อยู่กับข้า"

ต้องเป็นผู้เชื่อศรัทธาพระเจ้าเท่านั้นจึงจะเริ่มเข้าถึงพระปัญญา การเชื่อพระเจ้าจึงสำคัญเป็นจุดเริ่มต้น

ในยุคปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงและอ่านไบเบิลได้ง่าย มีแปลหลายร้อยภาษา ศึกษาได้ ท่องได้ แต่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงความล้ำลึกฝ่ายวิญญาณ (เว้นแต่พระเจ้าจะอนุญาตให้เข้าใจบางส่วน) ผู้เชื่อเท่านั้นที่สามาถอ่านและเข้าถึงฝ่ายวิญญาณ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเปิดเผยให้เข้าใจความล้ำลึกนี้

2.2 ของล้ำค่าที่ซื้อไม่ได้

อะไรคือของล้ำค่าที่มหาเศรษฐีโลกซื้อไม่ได้

โยบ.28:15-17

15 จะเอาทองคำซื้อก็ไม่ได้ และจะชั่งเงินให้ตามราคาก็ไม่ได้

16 จะตีราคาเป็นทองคำโอฟีร์ก็ไม่ได้ หรือเป็นโกเมนหรือแก้วไพฑูรย์ประเสริฐก็ไม่ได้

17 จะเทียบเท่าทองคำและแก้วก็ไม่ได้ หรือจะแลกกับเครื่องทองคำนพคุณก็ไม่ได้

สภษ.9:10 ความยำเกรงพระเจ้าเป็นที่เริ่มต้นของปัญญา และซึ่งรู้จักองค์บริสุทธิ์เป็นความรอบรู้

The fear of the LORD is the beginning of wisdom, and knowledge of the Holy One is understanding. (NIV)

รากศัพท์คำว่า “รู้จัก” หรือ knowledge ในข้อนี้คือ דַּעַת (อ่านว่า dah'-ath) หมายถึง รู้จัก (know) ความรู้ (knowledge) ไตร่ตรองล่วงหน้า คิดล่วงหน้า (premeditation) 

ใช้ในหลายที่ ส่วนใหญ่ใช้ในความหมาย “ความรู้” เช่น 

อพย.31:3 และได้ให้เขาประกอบด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า คือให้เขามีสติปัญญา ความเข้าใจและความรู้ในวิชาการทุกอย่าง

สดด.94:10 พระองค์ผู้ทรงตีสอนบรรดาประชาชาติ พระองค์จะไม่ทรงขนาบหรือ คือพระองค์ผู้ทรงสอนความรู้ให้มนุษย์

สภษ.9:10 ใช้ในความหมาย “รู้จัก” บางคนอยากรู้ปัญญาพระเจ้าแต่ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าถึง การยำเกรงพระเจ้าไม่ใช่แค่ความรู้ในสมองแต่เริ่มต้นด้วยตัดสินใจขอเชื่อศรัทธา ขอยำเกรง นำสู่การเข้าถึงพระเจ้า จึงเป็นของล้ำค่าที่ซื้อไม่ได้ ต้องเข้าถึงในฝ่ายวิญญาณเท่านั้น

อธิบายขยายความ : คนไม่เชื่อพระเจ้าสามารถอ่านหนังสืออธิบายพระคัมภีร์ของคริสเตียน สามารถอ่านบทเรียนคำสอนคริสตจักร สามารถฟังทำเทศนาสั่งสอนที่มีมากมาย พวกเขาเข้าใจที่ระดับสมองเท่านั้น ไม่สามารถเข้าถึงจิตวิญญาณ ต่างจากผู้เชื่อที่ปัญญาพระเจ้าหรือพระวจนะเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณทำให้จิตวิญญาณเติบโต

ทำให้จิตวิญญาณเติบโต (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

มธ.4:14 ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า "มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า "มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า

“มนุษย์” ในที่นี้โยงถึงสมัยพระคัมภีร์เดิม หมายถึงผู้เชื่อคนอิสราเอลในสมัยนั้น พระเยซูนำมาจาก ฉธบ.8:3

ฉธบ.8:1-3

1 "บัญญัติทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้นั้น ท่านทั้งหลายจงระวังกระทำตาม เพื่อท่านทั้งหลายจะมีชีวิตและทวีมากขึ้น และเข้าไปยึดครองแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณที่จะกระทำแก่บรรพบุรุษของท่าน

2 ท่านทั้งหลายจงระลึกถึงทางซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงนำท่านอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปี เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้ท่านถ่อมใจ และทดลองให้ทราบว่าจิตใจของท่านเป็นอย่างไร ดูว่าท่านจะรักษาพระบัญญัติของพระองค์หรือไม่

3 พระองค์ทรงกระทำให้ท่านถ่อมใจ และปล่อยท่านให้หิวและเลี้ยงท่านด้วยมานา ซึ่งท่านเองหรือปู่ย่าตายายของท่านก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้ท่านตระหนักแก่ใจว่า มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวก็หามิได้ แต่มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า

มีคำสอนมากมายให้ยึดคำสอน เช่น

สภษ.4:4-9

4 บิดาสอนเราและพูดกับเราว่า "ให้ใจของเจ้ายึดคำสอนของเราไว้ให้มั่น จงรักษาบัญญัติของเรา และมีชีวิตอยู่

5 อย่าลืมและอย่าหันกลับจากถ้อยคำแห่งปากของเรา จงเอาปัญญา และเอาความรอบรู้

6 อย่าทอดทิ้งเธอ และเธอจะรักษาเจ้าไว้ จงรักปัญญา และปัญญาจะระแวดระวังเจ้า

7 ที่เริ่มต้นของปัญญาเป็นอย่างนี้คือจงเอาปัญญาแม้เจ้าจะได้อะไรก็ตาม จงเอาความรอบรู้ไว้

8 จงตีราคาปัญญาให้สูง และปัญญาจะยกย่องเจ้าถ้าเจ้ากอดปัญญาไว้ ปัญญาจะให้เกียรติเจ้า

9 เธอจะเอามงคลงามสวมศีรษะเจ้า จะให้มงกุฎงามแก่เจ้า"

2ทธ.3:16-17

16 พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอนการตักเตือนว่ากล่าวการปรับปรุงแก้ไขคนให้ดีและการอบรมในทางธรรม

All Scripture is God-breathed and is useful for teaching, rebuking, correcting and training in righteousness,

17 เพื่อคนของพระเจ้าจะพรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง

so that the servant of God may be thoroughly equipped for every good work.

การอ่านพระคัมภีร์อย่างครบถ้วน “ทุกตอน” ทุกข้อจึงมีค่ายิ่ง จิตวิญญาณเติบโตแจ่มใส ล่วงรู้ปัญญาพระเจ้าอย่างครบถ้วน ทรงเปิดเผยให้เข้าใจความล้ำลึกที่ซ่อนอยู่ 

3. ทรงรู้ว่าปัญญาที่ว่าอยู่ที่ใด เพราะทรงสร้างขึ้นเอง 

โยบ.28:23-26

23 "พระเจ้าทรงทราบทางไปหาพระปัญญานั้น และพระองค์ทรงทราบที่อยู่ของพระปัญญาด้วย

24 เพราะพระองค์ทอดพระเนตรไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก และทรงเห็นทุกสิ่งที่ใต้ฟ้าสวรรค์

25 ในเมื่อพระองค์ทรงกำหนดน้ำหนักให้แก่ลม และทรงกะน้ำด้วยเครื่องตวง

26 เมื่อพระองค์ทรงสร้างกฎให้ฝน และสร้างทางไว้ให้แสงแลบของฟ้าผ่า

4. ความยำเกรงพระเจ้าคือพระปัญญา

โยบ.28:27-28

27 แล้วพระองค์ทอดพระเนตรพระปัญญาและทรงชันสูตร ทรงสถาปนาไว้และทรงวิจัย

28 และพระองค์ตรัสกับมนุษย์ว่า "ดูเถิด ความยำเกรงพระเจ้า นั่นแหละคือพระปัญญา และที่จะหันจากความชั่ว คือความเข้าใจ"

4.1 ความยำเกรงพระเจ้าคือพระปัญญา (27)

ความยำเกรงพระเจ้าคือพระปัญญา พระคัมภีร์ข้อนี้สรุปสั้นๆ ว่าผู้มีปัญญาคือคนที่เชื่อศรัทธาพระองค์ (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น) 

พระปัญญานำความรอด ให้ชีวิตนิรันดร์ที่หาไม่ได้จากทางอื่น ส่วนในโลกนี้มีพระองค์อยู่เคียงข้างคอยนำทาง 

สดด.23:1-6

1 พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน

2 พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ

3 ทรงฟื้นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์

4 แม้ข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์ คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์

5 พระองค์ทรงเตรียมสำรับให้ข้าพระองค์ ต่อหน้าต่อตาศัตรูของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ขันน้ำของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่

6 แน่ทีเดียวที่ความดีและความรักมั่นคงจะติดตามข้าพเจ้าไป ตลอดวันคืนชีวิตของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้าสืบไปเป็นนิตย์

แรกเริ่มเดิมที สดด.23:1-6 ไม่ใช่ธรรมบัญญัติ ไม่ใช่คำเผยพระวจนะแต่เป็นชีวิต ผู้แต่ง (ดาวิด) กำลังเล่าประสบการณ์ตนเองโดยแต่เป็นบทเพลง ถวายเกียรติพระเจ้าผู้ดูแลเขาตั้งแต่วันนี้จนถึงนิรันดร์

4.2 ผู้มีความเข้าใจจะหนีห่างความชั่ว (28)

โยบ.28:28 และพระองค์ตรัสกับมนุษย์ว่า "ดูเถิด ความยำเกรงพระเจ้า นั่นแหละคือพระปัญญา และที่จะหันจากความชั่ว คือความเข้าใจ"

จะวัดว่าใครมีความเข้าใจพระปัญญามากน้อย ดูจากความตั้งใจของผู้นั้นที่พยายามดำเนินชีวิตในความชอบธรรม อย่างน้อยต้องไม่อยากทำผิดบาป เพราะเข้าใจจริงๆ ว่าผลของความบาป (รักสนุก เอาแต่ใจตัว ไม่สนใจผิดถูก) นั้นร้ายแรงเพียงใด ทางที่เป็นประโยชน์ให้ผลดีแท้คือทางของพระเจ้า

“และที่จะหันจากความชั่ว” จึงเป็นดัชนีชี้ว่าใครเข้าเข้าถึงพระปัญญา

อธิบายขยายความ : ต้องมีความเข้าใจว่าการเข้าถึงพระปัญญาไม่ใช่แค่มีความรู้ที่สมอง เช่น ท่องพระคัมภีร์ได้ อธิบายได้ แต่การเข้าถึงแท้คือการเข้าถึงในฝ่ายวิญญาณจนเกิดผลฝ่ายวิญญาณ นั่นคือชีวิตเปลี่ยน จากเดิมที่ชอบทำบาปมาเป็นผู้เชื่อที่ตั้งใจพยายามดำเนินชีวิตตามหลักการพระเจ้าและทำได้มากขึ้นครบถ้วนขึ้นตามลำดับ ข้อนี้เกิดกับผู้เชื่อศรัทธาแท้เท่านั้น โยบคือตัวอย่างของคำสอนนี้

ผลพระปัญญาจะนำผู้เชื่อ “หันจากความชั่ว” ดำเนินชีวิตยำเกรงพระเจ้า

ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าเท่านั้นพบพระปัญญาและสามารถดำเนินตามทางนั้น ทางสู่ความรอด รางวัลนิรันดร์ที่มีค่ามากกว่าทุกสิ่งในโลกรวมกัน

พระเยซูจึงสอนดังนี้ (มก.8:35-38)

มก.8:35-38

35 เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐ ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด

36 เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร

37 เพราะว่าผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาชีวิตของตนกลับคืนมา

คำถาม จงถามตัวเองตอนนี้ว่า ท่านตั้งใจ “หันจากความชั่ว” มากเพียงไร

จงกลับใจใหม่ เริ่มต้นใหม่กับพระเจ้าอีกครั้ง พระองค์พร้อมอภัย

ความยำเกรงพระเจ้าเป็นพระปัญญาที่จะนำผู้ที่พระองค์เลือกสรรให้ได้รับความรอด รับการทรงนำตลอดชีวิตของเขา เป็นตัวแทนพระองค์ในโลกนี้

คำถามหลังคำสอน :

1) บทเรียนวันนี้สอนเรื่องความสำคัญของพระปัญญาอย่างไร

2) ท่านตั้งใจค้นหาพระปัญญาอย่างไร แบ่งปันวิธีที่ท่านทำ

--------------------------