คนในสมัยพระคัมภีร์เดิมได้รับความรอดผ่านความเชื่อ คือเชื่อว่าพระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้า แสดงออกด้วยการดำเนินชีวิตตามธรรมบัญญัติ เป็นเครื่องแสดงว่าเขาเชื่อพระเจ้า พยายามทำตามคำสั่งคำสอน
อ่านอพย.20:1-5
คำถามก่อนเรียน :
1) เมื่อท่านอ่านคำสอนในพระคัมภีร์เดิม
(พันธสัญญาเดิมหรือ Old Testament) ท่านปฏิบัติได้ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
2) เมื่อท่านอ่านคำสอนในพระคัมภีร์ใหม่
(พันธสัญญาใหม่) ท่านปฏิบัติได้ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
คนในสมัยพระคัมภีร์เดิมได้รับความรอดผ่านความเชื่อ:
ผู้เชื่อต้องมีความเข้าใจว่าในยุคพระคัมภีร์เดิม
ยังไม่มีพระเยซู ข่าวประเสริฐยังมาไม่ถึง ทุกคนสามารถรับความรอดผ่านความเชื่อ
คือเชื่อว่าพระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้า
ความเชื่อนี่แหละช่วยให้เขาไม่ต้องรับโทษบาปในวันพิพากษา
แสดงออกด้วยการดำเนินชีวิตตามธรรมบัญญัติ เป็นเครื่องแสดงว่าเขาเชื่อพระเจ้า
พยายามทำตามคำสั่งคำสอน
3 ข้อแรกของธรรมบัญญัติ
10 ประการของโมเสส ให้ยึดพระเจ้าองค์เดียว คือเชื่อว่าพระเยโฮวาห์เท่านั้นที่เป็นพระเจ้า
นมัสการพระองค์เพียงผู้เดียว นี่คือความเชื่อหลักที่พวกเขายึดถือ
1 พระเจ้าตรัสพระวจนะทั้งสิ้นต่อไปนี้ว่า
2 "เราคือพระเจ้าของเจ้า
ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์คือจากแดนทาส
3 "อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา
4 "อย่าทำรูปเคารพสำหรับตน
เป็นรูปสิ่งใดซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือบนแผ่นดินเบื้องล่าง
หรือในน้ำใต้แผ่นดิน
5 อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น
เพราะเราคือพระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน
ให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน
6 แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา
และปฏิบัติตามบัญญัติของเราจนถึงพันชั่วอายุคน {หรือจำนวนหลายพันคน}
คนในยุคพระคัมภีร์เดิม (พันธสัญญาเดิมหรือ Old
Testament) จึงรอดด้วยความเชื่อ
สำแดงว่าตนเชื่อด้วยการดำเนินชีวิตตามธรรมบัญญัติ เป็นบัญญัติที่วางไว้ตั้งแต่ต้น
พระเยซูทรงย้ำบัญญัติข้อนี้
มก.12:28-29
28 มีธรรมาจารย์คนหนึ่ง เมื่อมาถึงได้ยินเขาไล่เลียงกัน
และเห็นว่าพระองค์ทรงตอบเขาได้ดีจึงทูลถามพระองค์ว่า
"ธรรมบัญญัติข้อใดเป็นเอกเป็นใหญ่กว่าธรรมบัญญัติทั้งปวง"
29 พระเยซูจึงตรัสตอบคนนั้นว่า "ธรรมบัญญัติเอกนั้นคือว่า โอ ชนอิสราเอล
จงฟังเถิด พระเจ้าของเราทั้งหลายทรงเป็นพระเจ้าเดียว
“พวกยึดธรรมบัญญัติ”
กับ “พวกยึดคำสอนในพระคัมภีร์ใหม่” (ผู้เชื่อ 2 ยุค)
ล้วนพบความจริงว่าไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน เขาไม่สามารถทำตามธรรมบัญญัติ
ไม่สามารถทำตามคำสอนพระเยซูได้ครบถ้วนสมบูรณ์
ไม่มีใครรอดด้วยการประพฤติแต่ด้วยความเชื่อเท่านั้น
คำถาม
คริสเตียนคนไหนกล้าพูดว่าตนทำตามคำสอนพระเยซูได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่เคยทำบาปเลย
ไม่ต้องสารภาพบาป
ดังนั้น
ความรอดของผู้เชื่อทั้ง 2 ยุคจึงไม่ขึ้นกับการกระทำ (เป็นเช่นนี้ทั้งคู่)
แต่มาจากความรักมั่นคง (อพย.20:6) หรือที่พระคัมภีร์ใหม่ใช้คำว่าพระคุณ (grace) คำว่าพระคุณให้ความหมายว่า
ได้รับแม้ไม่สมควร พระเจ้าประทานให้โดยมีข้อแม้ว่าต้องเชื่อพระเจ้าจริง
พระองค์เป็นผู้ริเริ่ม มีรากฐานจากความรักพระองค์
พระคัมภีร์ใหม่สอนว่าในยุคพระคัมภีร์เดิม
ทุกคนได้รับความรอดผ่านความเชื่อ คือเชื่อว่าพระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้า
ความเชื่อนี่แหละช่วยให้เขาไม่ต้องรับโทษบาปในวันพิพากษา (ขีดเส้นใต้
2 เส้น)
ฮบ.11:39-40
39 คนเหล่านั้นทุกคนมีชื่อเสียงดีเพราะความเชื่อของเขา
แต่เขาก็ยังไม่ได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้
40 เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งซึ่งประเสริฐยิ่งกว่านั้นไว้สำหรับเขา
เพื่อเขาทั้งหลายจะได้รับความสมบูรณ์ด้วยกันกับเราเท่านั้น
พระธรรมฮีบรูบทที่ 11 สอนเรื่องความเชื่อ
ยกตัวอย่างคนในสมัยพระคัมภีร์เดิมที่มีความเชื่อ สมควรเป็นแบบอย่างแก่คริสเตียน
(ยุคพระคัมภีร์ใหม่หรือพันธสัญญาใหม่)
คนเหล่านั้นล้วนเชื่ออย่างมั่นคงว่าพระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้า สำแดงออกผ่านชีวิต
การกระทำตามคำสั่งคำสอนพระเจ้า (อ่านฮีบรูบทที่ 11)
ไม่ต่างจากคริสเตียนที่รอดผ่านความเชื่อ แต่เป็นความเชื่อที่สมบูรณ์กว่าคือเชื่อว่าพระเยซูได้ไถ่เราแล้วที่กางเขน (ความเชื่อที่สมบูรณ์กว่านี้คือความเชื่อตามแผนการพระเจ้า ถึงเวลาพระเยซูมาเกิดเป็นมนุษย์และไถ่บาป ต่างจากผู้เชื่อสมัยพันธสัญญาเดิมที่รอคอยพระผู้ไถ่)
คำถามหลังคำสอน :
1) ทำไมพระเจ้าจึงกำหนดให้มนุษย์ได้รับความรอดผ่านความเชื่อ
ไม่ใช่ด้วยผ่านการประพฤติตามคำสอน
2) จากบทเรียนนี้ ความเหมือนกับความต่างสำคัญของผู้เชื่อพระเจ้าในพันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่คืออะไร
จงอธิบายอย่างกระชับได้ใจความ
--------------------------