ผลลัพธ์ข้อหนึ่งคือผู้เชื่อเติบโตฝ่ายวิญญาณมากขึ้น มีประสบการณ์ในพระเจ้าเพิ่มขึ้น และผูกพันกับพระองค์มากขึ้นตามลำดับ ทรงอยู่กับเขาไม่ใช่หรือ ทรงอยู่ด้วยตั้งแต่วันนี้จนถึงนิรันดร์
คำถามก่อนเรียน :
1)
พระเจ้ารักผู้เชื่อและสอนให้ผู้เชื่อรักพระองค์และคนอื่น
เรื่องนี้สำคัญเพียงไร
2)
เล่าถึงความรักของท่านที่มีต่อพระเจ้าเป็นอย่างไร
เกริ่นนำ :
คริสเตียนรู้จักคำสอนว่าพระเจ้ารักเรา
และทรงสั่งให้เรารักพระองค์และเพื่อนมนุษย์
ยน.3:16 เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก
จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์
เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์
รากศัพท์คำว่า
“รัก” ใน ยน.3:16 เป็นภาษากรีก คือคำว่าอากาเป้ (agape) ความรักนี้ไม่ใช่รักแบบที่มนุษย์มีต่อกัน เช่น พ่อแม่รักลูก
พี่น้องรักกัน สัมพันธ์หนุ่มสาว เพื่อนซี้เพื่อนเกลอ (ความรักระหว่างมนุษย์ดังกล่าวภาษากรีกใช้ศัพท์อื่น)
การใช้คำว่า
‘อากาเป้’ ในพระคัมภีร์ สื่อว่าเป็นความรักที่มาจากพระเจ้าโดยตรง
พระเจ้าไม่ใช่ผู้ที่ขาดความรักจึงร้องหาความรัก
ในทางกลับกันทรงเป็นความรัก (God is love) ทรงเปี่ยมด้วยรักและรักมนุษย์ทุกคน
หากผู้เชื่อตอบสนองจะเกิดผลดีกับตัวเขาเอง
1ยน.4:8
ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
Whoever does not love does not know God, because God is
love.
ประโยคนี้อาจแปลใหม่ว่า
ผู้ใดไม่มีอากาเป้ผู้นั้นไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นอากาเป้
คำถาม: วันนี้คุณมีอากาเป้แล้วหรือยัง
ผลดีของการรักผูกพันพระเจ้า:
‘ผลดีของการรักผูกพันพระเจ้า’ มีมากมาย
ในที่ยกตัวอย่างจาก สดด.91:14-16 ดังนี้
14 เพราะเขาผูกพันกับเราด้วยความรัก เราจะช่วยกู้เขา เราจะป้องกันเขาไว้
เพราะเขารู้จักนามของเรา
Because
he hath set his love upon me, therefore will I deliver him: I will set him on
high, because he hath known my name. (KJV)
“Because
he loves me,” says the LORD, “I will rescue him; I will protect him, for he
acknowledges my name.
15 เมื่อเขาร้องทูลเรา เราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก เราจะช่วยเขาให้พ้นและให้เกียรติเขา
He
will call on me, and I will answer him; I will be with him in trouble, I will
deliver him and honor him.
16 เราจะให้เขาอิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาว และสำแดงความรอดของเราแก่เขา
With
long life I will satisfy him and show him my salvation.”
1. ทรงรักเราตั้งแต่แรก (14ก)
รากฐานความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับผู้เชื่อคือความรัก
ทั้งที่พระเจ้ารักเรา เรารักพระองค์
พระคัมภีร์เดิมพูดถึงความรักที่พระเจ้ามีต่อผู้เชื่อมากมาย
อพย.20:6 แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเรา
และปฏิบัติตามบัญญัติของเราจนถึงพันชั่วอายุคน
ความรักมั่นคงเป็นของพระองค์
but
showing love to a thousand generations of those who love me and keep my
commandments.
รากศัพท์ฮีบรูของวลีว่า
“ผูกพัน ... ด้วยความรัก” ในสดด.91:14 หรือ “Because he hath set his love” (KJV) หรือ “Because he loves” (NIV) คือคำว่า חָשַׁק (อ่านว่า khaw-shak') หรือ
“chashaq” เป็นคำกริยา หมายถึง มีใจรัก (To love) ผูกพันกับ ติดอยู่กับ (to be attached to) ชื่นชมยินดีใน
(to delight in) เกาะติด (to cling)
ไม่มีศัพท์ฮีบรูใดที่ตรงกับ
agape โดยตรง chashaq
เป็นศัพท์ฮีบรูคำหนึ่งที่ใช้เมื่อพูดถึงความรักของพระเจ้า
ตัวอย่างข้อพระคัมภีร์เดิมที่ใช้คำว่า chashaq เช่น
ฉธบ.7:7 ที่พระเจ้าทรงรักและทรงเลือกท่านทั้งหลายนั้น
มิใช่เพราะท่านทั้งหลายมีจำนวนมากกว่าประชาชนชาติอื่น
ด้วยว่าในบรรดาชนชาติทั้งหลาย ท่านเป็นจำนวนน้อยที่สุด
อสย.38:17 นี่แน่ะ เพราะเห็นแก่สวัสดิภาพของข้าพระองค์
ข้าพระองค์จึงมีความขมขื่นมากยิ่ง แต่พระองค์ทรงรักชีวิตของข้าพระองค์
ไม่ให้ตกหลุมแห่งความพินาศ เพราะพระองค์ทรงเหวี่ยงบาปทั้งสิ้นของข้าพระองค์
ไว้เบื้องพระปฤษฎางค์ของพระองค์
แต่ดั้งเดิมพระเจ้าทรงรักคนของพระองค์
พระเยซูเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่แสดงความรักต่อผู้เชื่อ ทรงรักเราไม่เปลี่ยนแปลง
คำว่า “ผูกพัน ... ด้วยความรัก” แสดงถึงการรักอย่างลึกซึ้ง จริงจัง รักเสมอ
คนที่ปากบอกว่ารักพระเจ้ามีมาก
พระเจ้าจะอวยพรอย่างมากมายต่อคนที่รักพระองค์จริงๆ เพราะว่าเขารักด้วยใจจริง
สดด.103:11 เพราะว่าฟ้าสวรรค์สูงเหนือแผ่นดินเท่าใด
ความรักมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อบรรดาคนที่เกรงกลัวพระองค์ก็ใหญ่ยิ่งเท่านั้น
For as
high as the heavens are above the earth, so great is his love for those who
fear him;
นหม.1:5 ข้าพเจ้าทูลว่า
"ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่ง และน่าเกรงกลัว
ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและดำรงความรักมั่นคงกับบรรดาผู้ที่รักพระองค์
และรักษาพระบัญญัติของพระองค์
Then I said: “LORD, the God of heaven,
the great and awesome God, who keeps his covenant of love with those who love
him and keep his commandments,
นหม.1:5 พูดถึง “พันธสัญญาแห่งรัก” (covenant
of love) “บรรดาผู้ที่รักพระองค์” (those who love him) พระเจ้าทรงตั้งพันธสัญญากับคนของพระองค์ เป็นพันธสัญญาแห่งรัก
และปรารถนาให้คนของพระเจ้ารักพระองค์ โดยที่พระองค์รักพวกเขาก่อน
พันธสัญญาคือหลักฐานหรือเจตจำนงของพระเจ้า ทรงจริงจังต่อความรักนี้
2. จะช่วยกู้ (14ข)
พระเจ้าจะช่วยให้พ้นจากปัญหาความทุกข์ที่เผชิญอยู่
2ซมอ.22:44 "พระองค์ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์จากการเกี่ยงแย่งประชาชนของข้าพระองค์
พระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ไว้ให้เป็นหัวหน้าของบรรดาประชาชาติ
ชนชาติที่ข้าพระองค์ไม่เคยรู้จักก็จะปรนนิบัติข้าพระองค์
สดด.18:2 พระเจ้าทรงเป็นพระศิลา
ป้อมปราการ และผู้ช่วยกู้ของข้าพระองค์
เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์เป็นพระศิลาซึ่งข้าพระองค์เข้าลี้ภัยอยู่ในพระองค์
เป็นโล่ เป็นพลังแห่งความรอดของข้าพระองค์ เป็นที่กำบังเข้มแข็งของข้าพระองค์
คริสเตียนมักอธิษฐานขอให้พระเจ้าช่วยเหลือปัญหาความทุกข์ต่างๆ
ขอเพียงผู้นั้นรักพระองค์จริง พระเจ้าจะช่วยคนนั้นแน่นอน
ทรงรู้อยู่แล้วว่าใครมีปัญญาอะไร รู้ก่อนที่ผู้นั้นจะอธิษฐานเสียอีก
อธิบายขยายความ:
คริสเตียนพึงเข้าใจว่าความรักที่พระเจ้ามีให้นั้น
ไม่ใช่ความรักเพื่อตามใจเรา บางครั้งอธิษฐานขอแล้วได้ทันทีแต่บางครั้งต้องรอ
ความรักของพระเจ้าไม่ใช่เพื่อให้ผู้เชื่อใช้ชีวิตอยู่ในความบาปต่อไป
จุดสำคัญคือต้องเข้าใจน้ำพระทัยว่าพระองค์ต้องการสิ่งใด
ระหว่างนาย ก ที่ทำบาปอยู่เรื่อย ชีวิตแทบไม่เปลี่ยนแปลง แล้วได้รับความรอด กับนาย
ข ที่ชีวิตเปลี่ยนแปลงตามลำดับ จนได้อยู่กับพระองค์นิรันดร์
พระเจ้าอยากให้คริสเตียนเป็นแบบนาย ข มากกว่า
“คริสเตียน 500” ไม่ใช่เรื่องเงินเท่านั้น
อาจเป็นตำแหน่งหน้าที่การงาน ชื่อเสียง เกียรติยศ รูปแบบการใช้ชีวิต ฯลฯ
ในสายตามนุษย์มักมองหาความสุขระยะสั้น
พระองค์เห็นว่าเป็นการดีกว่าถ้าบางคนทนทุกข์บ้าง อยู่ในบางปัญหา
เพื่อจะมีเหตุให้แสวงหาพระเจ้า ดำเนินในทางของพระองค์
ความรอดสำคัญกว่ามิใช่หรือ
โลกแค่ของชั่วคราว ท่านจะอยู่ในโลกอีกกี่ปี
อนึ่ง คำว่า ”เราจะช่วยกู้เขา” (14ข) กับ “เราจะช่วยเขาให้พ้น” (15ค)
เป็นรากศัพท์คนละตัว แต่ความหมายคล้ายกัน เล็งถึงการช่วยให้พ้นจากปัญหาความทุกข์ที่เผชิญอยู่
3. จะปกป้องเชิดชู (14ค)
รากศัพท์คำว่า
“ป้องกัน” หมายถึง ปกป้อง ให้ปลอดภัย เชิดชู ตั้งไว้ในที่สูง
คำนี้ถูกใช้ในหลายที่ เช่น
สดด.69:29 แต่ข้าพระองค์ทุกข์ยากและเจ็บปวด
ข้าแต่พระเจ้า ขอความรอดของพระองค์ตั้งข้าพระองค์ไว้ให้สูง
But as for me, afflicted and in pain— may your salvation,
God, protect me.
แต่ข้าพระองค์ทุกข์ยากและเจ็บปวด ข้าแต่พระเจ้า
ขอการช่วยกู้ของพระองค์พิทักษ์รักษาข้าพระองค์ (ฉบับปี 2011)
สภษ.18:10 พระนามของพระเจ้าเป็นป้อมเข้มแข็ง
คนชอบธรรมวิ่งเข้าไปในนั้นและปลอดภัย
ชีวิตคริสเตียนอยู่ในสงครามฝ่ายวิญญาณ
อยู่ในบริบทแวดล้อมที่ล่อลวงให้ทำบาป การปกป้องจากพระเจ้าจึงสำคัญ ป้องกันไว้ก่อน
ไม่ต้องรอให้เกิดปัญหาแล้วจึงร้องขอความช่วยเหลือ
คนที่รักผูกพันพระเจ้า
ปัญหาจะน้อยลง และจะได้รับการปกป้อง
อธิบายขยายความ:
จริงหรือไม่เมื่อคริสเตียนเปลี่ยนแปลงชีวิต หันหนีจากความบาป
ชีวิตเขาจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัญหาความทุกข์ยากลดลง เช่น
นาย
ก มีหนี้สินเพราะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รายได้ไม่พอรายจ่าย
เมื่อมาเชื่อพระเจ้าไม่เป็นทาสความฟุ่มเฟือย กลับมามีเงินเก็บเงินเหลือใช้อีกครั้ง
นาย
ข พยายามเลิกบุหรี่หลายครั้ง แต่เลิกได้จริงๆ เมื่อมาเชื่อพระเจ้า สุขภาพของนาย ข
ดีขึ้นทันที มีความสุขมากขึ้น
นาย
ค มักชอบด่าว่าทุบตีภรรยา เมื่อเชื่อพระเจ้าเริ่มเรียนรู้หน้าที่สามีตามพระคัมภีร์
ครอบครัวกลับมามีความสุขอีกครั้ง
ฯลฯ
ดังที่กล่าวว่า
‘กันไว้ดีกว่าแก้’
คนที่รักผูกพันพระเจ้าชีวิตจะเปลี่ยนเหมือนพระองค์มากขึ้นๆ
กลับไปเป็นมนุษย์ที่ดีพร้อมอย่างที่พระองค์ต้องการ
คำถาม: ทบทวนชีวิตของท่านว่าเมื่อเชื่อพระเจ้าแล้ว
ชีวิตท่านดีขึ้นอย่างไร
4. พระเจ้าตอบคำอธิษฐาน (15ก)
- เมื่อเขาร้องทูลเรา เราจะตอบเขา
การอธิษฐานขอความช่วยเหลือเป็นหัวข้อที่มีเสมอ
สดด.50:15 และจงร้องทูลเราในวันทุกข์ยากลำบาก เราจะช่วยกู้เจ้า
และเจ้าจะถวายพระสิริแก่เรา"
1 ปต.3:12
เพราะว่าพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเฝ้าดูคนชอบธรรม
และพระกรรณของพระองค์ทรงสดับคำอ้อนวอนของเขา
แต่พระพักตร์ของพระองค์ไม่เป็นมิตรกับคนทั้งหลายที่ทำความชั่ว
พระเจ้าอยากให้ผู้เชื่ออธิษฐาน
ไม่เพียงเพื่อ “ขอ” แต่เป็นชีวิตที่ใกล้ชิดติดสนิท
ให้การอธิษฐานคือส่วนหนึ่งของการสื่อสารกับพระองค์ อธิษฐานนำสู่การพัฒนาความสัมพันธ์
การอธิษฐานไม่ใช่การท่องบทสวด ไม่จำต้องใช้คำสวยหรู เป็นการสื่อสารกับพระเจ้ารูปแบบหนึ่งที่ง่ายเพราะแค่พูดเท่านั้น แต่ที่ดูเหมือนง่ายมีความลึกล้ำ สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชื่อกับพระเจ้าที่เขารู้จัก
5. พระเจ้าอยู่ด้วยในยามลำบาก (15ข)
- เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก
มีคำกล่าวว่า ‘มิตรแท้จะอยู่กับเราแม้ในยามยาก
ส่วนมิตรแต่ปากยามยากจะหายไป’ เราสามารถรู้ว่าใครรักเราจริงในยามเผชิญความทุกข์ยาก
พระเจ้าสัพพัญญู
รู้ดีว่าคริสเตียนกำลังเผชิญอะไร ทรงสัญญาว่า “เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก” ในยามที่ผู้เชื่อต้องการกำลังใจ
ต้องการความช่วยเหลือ
เป็นเหตุให้ผู้เชื่อไว้วางใจพระองค์
ไม่มีใครที่สามารถช่วยเราได้ดีมากเท่ากับพระเจ้าอีกแล้ว
สดด.23:4 แม้ข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช
ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์
คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์
อสย.41:10 อย่ากลัวเลย
เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาด เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะหนุนกำลังเจ้า เออ
เราจะช่วยเจ้า เออ เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันมีชัยของเรา
พระเจ้าจะอยู่กับคนของพระองค์ตั้งแต่วันนี้และสืบไป “เพราะเขารู้จักนามของเรา” (สดด.91:14ง)
6. ให้เกียรติให้ความสำคัญ (15ง)
- และให้เกียรติเขา
คำว่า
“ให้เกียรติเขา” หมายถึง ให้เกียรติ ให้ความสำคัญ
อพย.20:12 "จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า
เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า
กดว.22:37 บาลาคพูดกับบาลาอัมว่า
"เราได้อุตส่าห์ใช้คนไปเชิญท่านมามิใช่หรือ เหตุไฉนท่านไม่มาหาเราเล่า
เราไม่สามารถที่จะให้เกียรติแก่ท่านหรือ"
เมื่อผู้เชื่อรักผูกพันพระเจ้า
พระองค์แสดงออกหลายอย่าง ในที่นี้ (สดด.91:14-16) ทรงแสดงความรัก ช่วยแก้ปัญหา
คอยปกป้องจากศัตรู ตอบคำอธิษฐาน อยู่ด้วยในยามลำบาก เพราะทรงให้ความสำคัญกับคนที่รักผูกพันพระองค์
จะเห็นว่าเมื่อคนของพระเจ้ารักผูกพันพระองค์
จะมีผลดีหลายอย่างเกิดขึ้นทันที เป็นคนสำคัญของพระองค์
เป็นข้อคิดแก่คริสเตียนว่า อย่างไรดีกว่า
ก)
ใช้เวลาอธิษฐานขอพระเจ้าช่วยเรื่องนั้นเรื่องนี้
ข)
ให้เวลากับการรักผูกพันพระเจ้า ด้วยการสรรเสริญนมัสการ อธิษฐานติดสนิท
ฟังพระสุรเสียงจากพระวจนะของพระองค์
7. อายุยืนยาว (16ก)
- เราจะให้เขาอิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาว
การมีชีวิตยืนยาวเป็นพระพรสำคัญ
เพราะคนในอดีตมักเสี่ยงอายุสั้น เช่น การกันดารอาหาร ภัยพิบัติ โจรผู้ร้าย สงคราม
การแพทย์ยังไม่ก้าวหน้า หลายคนเสียชีวิตตั้งแต่เด็กหรือวัยหนุ่มสาว
พระเจ้าปกป้องคนของพระองค์ให้มีอายุยืน
สภษ.10:27 ความยำเกรงพระเจ้านั้นยืดชีวิตให้ยาวไป
แต่ปีเดือนของคนชั่วร้ายนั้นจะสั้นเข้า
การขอให้อายุยืนจึงมักเป็นส่วนหนึ่งของคำอธิษฐาน
สดด.72:15 ขอท่านผู้นั้นมีชีวิตยืนนาน
ให้คนถวายทองคำเมืองเชบาแก่ท่าน ให้เขาอธิษฐานเผื่อท่านเรื่อยไป
และอวยพรท่านวันยังค่ำ
พระวจนะตอนนี้
พระเจ้าสัญญาให้อิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาว หมายถึง ทรงให้มีความสุขจากการมีอายุยืน เป็นพระพรอีกประการที่จะได้รับ
ตัวอย่าง
อับราฮัม
อับราฮัมคือตัวอย่างผู้ที่พระเจ้าอวยพรให้มีอายุยืนยาว
จน “เขาอิ่มใจ” เพียงพอแล้วที่มีอายุยืนขนาดนั้น
พอใจแล้วสำหรับมนุษย์คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโลกนี้
ไม่เพียงอายุยืนเท่านั้น
อับราฮัมใช้ชีวิตอย่างผู้ที่พระเจ้าทรงอำนวยพระพรทุกประการ ในฐานะคนของพระเจ้าที่ไม่ต้องการสิ่งใดจากโลกมากกว่านี้อีกแล้ว
ปฐก.24:1 ฝ่ายอับราฮัมก็ชราแล้ว
มีอายุมากทีเดียว และพระเจ้าทรงอำนวยพระพรอับราฮัมทุกประการ
ปฐก.25:7 อายุของอับราฮัม
คือหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าปี
สิ่งสำคัญกว่าที่คนของพระเจ้าต้องการคือชีวิตนิรันดร์
ทรงจัดเตรียมให้อับราฮัมแล้วเช่นกัน
สำหรับคนของพระเจ้าไม่ว่าวันนี้จะเผชิญสิ่งใด
เขา... “คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ” อย่างมีความเข้าใจ
รับรู้ผลพระสัญญาที่จะได้ในอนาคต
รม.1:17 เพราะว่าในข่าวประเสริฐนั้น ความชอบธรรมของพระเจ้าก็ได้สำแดงออกโดย
เริ่มต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า
คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ
ฮบ.11:40 เพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งซึ่งประเสริฐยิ่งกว่านั้นไว้สำหรับเขา
เพื่อเขาทั้งหลายจะได้รับความสมบูรณ์ด้วยกันกับเราเท่านั้น
พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือสรรพสิ่ง
ผู้กำกับควบคุมโลกตลอดเวลา
ได้จัดเตรียมสิ่งประเสริฐที่อยู่เบื้องบนให้กับคนของพระองค์แล้วมิใช่หรือ
เขาอิ่มใจตั้งแต่วันนี้จนถึงนิรันดร์
8. ได้รับความรอด (16ข)
- และสำแดงความรอดของเราแก่เขา
คนอิสราเอลในพระคัมภีร์เดิมจะรอคอยพระเมสสิยาห์ (พระผู้ช่วยให้รอด) คือความรอดผ่านพระเยซูคริสต์นั่นเอง
ความรอดเป็นพระสัญญาสำคัญที่ผู้เชื่อคาดหวัง
แต่ใช่ว่าทุกคนที่รับเชื่อจะสามารถ ‘รักษาความรอด’ ไว้ได้ ‘การรับเชื่อพระเจ้า’
เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่การ ‘รักษาความรอด’ มักกินเวลายาวนาน อาจหลายปีหรือหลายสิบปี จำต้องผ่านสงครามฝ่ายวิญญาณ
การทดสอบทดลองมากมาย “แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด”
มธ.24:10-13
10 คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไป
และอายัดกันและกันทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกันด้วย
11 ผู้เผยพระวจนะปลอมหลายคนจะเกิดมีขึ้น
และล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป
12 ความรักของคนส่วนมากจะเยือกเย็นลง
เพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป
13 แต่ผู้ใดทนได้จนถึงที่สุดผู้นั้นจะรอด
เป็นโจทย์สำคัญแก่ผู้เชื่อว่า
ทำอย่างไรจึงสามารถรักษาความรอดจนถึงปลายทาง พระคัมภีร์ สดด.91:14 ให้คำตอบเรื่องนี้
คนที่
“ผูกพันกับเราด้วยความรัก ... เขารู้จักนามของเรา”
จะได้รับการอวยพรตั้งแต่รับเชื่อจนแก่ชรา และสามารถรักษาความรอดไว้ได้
สดด.91:14 เพราะเขาผูกพันกับเราด้วยความรัก
เราจะช่วยกู้เขา เราจะป้องกันเขาไว้ เพราะเขารู้จักนามของเรา
Because he hath set his love upon me, therefore will I
deliver him: I will set him on high, because he hath known my name. (KJV)
“Because he loves me,” says the LORD, “I will rescue him; I
will protect him, for he acknowledges my name.
คือคนนั้นที่รักพระเจ้า จิตวิญญาณแนบสนิทกับพระองค์
9. สรุป
พระเจ้ารักเราก่อน
คนบาปตอบสนองด้วยการเชื่อและได้รับความรอด แต่การรักษาความรอดเป็น ‘กระบวนการ’ ที่มักกินเวลายาวนาน จำต้องผ่านสงครามฝ่ายวิญญาณ
การทดสอบทดลองทั้งหลาย มีประสบการณ์ในพระเจ้าหลายหลายรูปแบบ
(ทั้งการอวยพรกับการตีสอน)
ผลลัพธ์ข้อหนึ่งคือผู้เชื่อเติบโตฝ่ายวิญญาณมากขึ้น
มีประสบการณ์ในพระเจ้าเพิ่มขึ้น และผูกพันกับพระองค์มากขึ้นตามลำดับ
ทรงอยู่กับเขาไม่ใช่หรือ ทรงอยู่ด้วยตั้งแต่วันนี้จนถึงนิรันดร์
คำถามหลังคำสอน :
1) จงแบ่งปัน คริสเตียนสามารถรักพระเจ้ามากขึ้นอย่างไร
2) ท่านคิดว่าการเฝ้าเดี่ยว การอธิษฐาน นมัสการ อ่านพระคัมภีร์ส่วนตัว
ช่วยให้รักพระเจ้ามากขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร
------------------------