วิธีง่ายๆ เพื่อสัมผัสพระเจ้าง่ายๆ 25 ทำอย่างไรจึงจะนมัสการด้วยใจยินดี อิ่มเอมฝ่ายวิญญาณ สดด.63:1-8

ทำอย่างไรจึงจะนมัสการด้วยใจยินดี อิ่มเอมฝ่ายวิญญาณ สดด.63:1-8

ในที่นี้ยกกรณีตัวอย่างดาวิดจาก สดด.63:1-8 เป็นภาพ “ความสัมพันธ์ระหว่างดาวิดกับพระเจ้าของเขา” เป็นแบบอย่างแก่ผู้เชื่อทั้งหลาย


1. ตั้งใจแสวงหาพระเจ้าอย่างมาก 

ใช้คำว่ากระหายหา กระเสือกระสน

สดด.63:1 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์แสวงพระองค์ จิตวิญญาณของข้าพระองค์กระหายหาพระองค์ เนื้อหนังของข้าพระองค์กระเสือกกระสนหาพระองค์ ในดินแดนที่แห้งและอ่อนโหย ที่ที่ไม่มีน้ำ

You, God, are my God, earnestly I seek you; I thirst for you, my whole being longs for you, in a dry and parched land where there is no water.

2. ผลที่ได้คือพบพระเจ้า สัมผัสพระองค์

สถานนมัสการในตอนนั้นคือพลับพลาที่ซึ่งพระเจ้าประทับอยู่ คนอิสราเอลนมัสการโดยมีพลับพลาเป็นศูนย์กลางตามบริบทยุคนั้น 

สดด.63:2 เช่นนั้นแหละ ข้าพระองค์จึงเคยเห็นพระองค์ในสถานนมัสการ เห็นฤทธานุภาพและพระสิริของพระองค์

I have seen you in the sanctuary and beheld your power and your glory.

คำว่า “เห็นพระองค์” ไม่ใช่การเห็นพระองค์หน้าต่อหน้า ไม่มีใครทำเช่นนั้นได้เพราะจะเสียชีวิตทุกคน (ไม่มีใครบริสุทธิ์) จึงเป็นการใช้คำเพื่อบรรยายว่าได้ “สัมผัส” พระองค์ในบางรูปแบบ สดด.63:2 บรรยายว่าได้สัมผัส (เห็น) พลังอันยิ่งใหญ่ สัมผัสพระสิริ

การสัมผัสพบพระเจ้าเป็นผลจากความตั้งใจแสวงหาพระเจ้าอย่างมาก (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

3. สัมผัสความรักพระองค์

ประโยคถัดจากข้อ 2 ดาวิดพูดถึงความรักพระเจ้า ไม่ใช่แค่รู้จากธรรมบัญญัติว่าพระเจ้าเป็นความรักแต่เขาสัมผัสความรักพระองค์ ตีค่าความรักนี้สูงสุด และด้วยเหตุที่ได้ความรักที่มีคุณค่าเหนือชีวิต จึงสรรเสริญพระองค์

สดด.63:3 เพราะว่าความรักมั่นคงของพระองค์ดีกว่าชีวิต ริมฝีปากของข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์

Because your love is better than life, my lips will glorify you.

“ความรักมั่นคงของพระองค์” ถ้าเทียบกับพระคัมภีร์ใหม่คือ “อากาเป้” ความรักที่มาจากพระเจ้า ดาวิดสัมผัสรักนี้ (อย่างเต็มขนาด) ถึงกับชี้ว่ามีค่าสูงกว่าชีวิต มีค่าสูงกว่าสิ่งใดๆ

คริสเตียนจึงต้องได้รับอากาเป้ สำแดงอากาเป้

4. ประการณ์สัมผัสพระองค์เกิดขึ้นเสมอ 

ข้อ 4 ดาวิดสรุปรวบยอดจากคำพูดก่อนหน้านั้นว่าด้วยเหตุนี้เขาจะสรรเสริญพระองค์ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ข้อนี้กำลังบอกว่าท่านไม่ได้สัมผัสพระเจ้าแค่ครั้งเดียวหรือนานๆ ครั้งแต่สัมผัสเสมอตลอดชีวิตของท่าน

สดด.63:4 เช่นนั้นแหละ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ ตราบเท่าชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ชูมือต่อพระนามของพระองค์

I will praise you as long as I live, and in your name I will lift up my hands.

อธิบายขยายความ : การสัมผัสพระเจ้าไม่ใช่สิ่งแปลกประหลาดที่จะเกิดนานๆ ครั้ง ขึ้นกับการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระองค์ ในช่วงหนึ่งอาจสัมผัสยากหรือนานๆ ครั้ง เมื่อพัฒนาความสัมพันธ์มากขึ้น ลึกซึ้งขึ้น มีประสบการณ์ถี่ขึ้นเรื่อยๆ การสัมผัสพระเจ้าจะกลายเป็นเรื่องปกติ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้เชื่อและควรจะเป็นเช่นนั้น

5. ผลที่แสดงออกเห็นได้ชัดเจน

ลักษณะบางประการที่แสดงออกเมื่อสัมผัสพระเจ้าคืออิ่มเอมฝ่ายวิญญาณ สรรเสริญนมัสการด้วยความชื่นบาน หรือรูปแบบอื่นๆ ขึ้นกับพระเจ้า เป็นผลจากการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์

สดด.63:5 จิตใจของข้าพระองค์จะอิ่มหนำดังกินเนื้ออย่างดีและไขมัน และปากของข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยริมฝีปากที่ชื่นบาน

I will be fully satisfied as with the richest of foods; with singing lips my mouth will praise you.

5.1 อิ่มเอมฝ่ายวิญญาณ (5ก)

ข้อ 5 ไม่ได้หมายถึงกินอิ่มท้อง ดาวิดกำลังพูดถึงที่ท่านสัมผัสพระเจ้า เกิดความอิ่มเอมฝ่ายวิญญาณเหมือนดังกินอาหารที่ดีที่สุด

สดด.9:1-2

1 ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระเจ้าด้วยสิ้นสุดใจของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะบอกถึงการอัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์

2 ข้าพระองค์จะยินดีและปลาบปลื้มใจในพระองค์ ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์

สดด.9:2 เกิดความ "ปลาบปลื้มใจในพระองค์" สังเกตว่าสัมพันธ์กับพระเจ้า ไม่ใช่อย่างอื่น

5.2 สรรเสริญนมัสการด้วยความชื่นบาน (5ข)

การสรรเสริญนมัสการด้วยความชื่นบานไม่ใช่การพยายามที่จะยิ้มหรือทำตัวชื่นบาน เป็นผลฝ่ายวิญญาณโดยตรง สะท้อนจิตวิญญาณของผู้นั้น การทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเขาเอ่ยนามพระองค์ (พระเจ้าเป็นความชื่นบานของเขา และเป็นอื่นๆ เช่น เป็นสันติสุข เป็นความรักของเขา เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณล้วนๆ)

6. เพียงแค่คิดถึงพระองค์

ข้อ 6-8 ดาวิดพูดถึงชีวิตตนที่ใกล้ชิดพระองค์อีก พรรณนาว่าคิดถึงพระเจ้าในยามที่ท่านอยู่บนเตียง (บรรยากาศสบายๆ คนกำลังพักผ่อนเข้านอน) 

สดด.63:6 เมื่อข้าพระองค์คิดถึงพระองค์ขณะอยู่บนที่นอน และภาวนาถึงพระองค์ทุกๆ ยาม

On my bed I remember you; I think of you through the watches of the night.

คำถาม เมื่อท่านเข้านอน ท่านคิดถึงใคร

7. เหตุที่คิดถึงพระองค์

ดาวิดสรุปรวบยอดในข้อนี้ว่าเหตุที่คิดถึงพระองค์ด้วยความรัก ความปีติยินดี “เพราะพระองค์ทรงเป็นความอุปถัมภ์ของข้าพระองค์” สรุปรวบยอดการอวยพรที่ท่านได้รับมากมาย

สดด.63:7 เพราะพระองค์ทรงเป็นความอุปถัมภ์ของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เปรมปรีดิ์อยู่ในร่มปีกของพระองค์

Because you are my help, I sing in the shadow of your wings.

8. ท่านจะใกล้ชิดติดสนิทพระองค์ต่อไป

ดาวิดเรียนรู้และได้รับผลดีจากการใกล้ชิดติดสนิทพระเจ้า ยิ่งทำให้อยากใกล้ชิดติดสนิทยิ่งกว่าเดิม ลึกลงในความสัมพันธ์นี้ รู้ดีว่าพระเจ้าจะเป็นผู้อุปถัมภ์ท่านต่อไป

สดด.63:8 จิตวิญญาณของข้าพระองค์เกาะติดอยู่ที่พระองค์ พระหัตถ์ขวาของพระองค์ชูข้าพระองค์ไว้

I cling to you; your right hand upholds me.

“จิตวิญญาณของข้าพระองค์เกาะติดอยู่ที่พระองค์” (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

ใกล้ชิดอย่างไร ให้จิตวิญญาณเกาะติดกับพระองค์ สุดท้ายคือหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวซึ่งจะเกิดขึ้นสมบูรณ์เมื่อผู้เชื่ออยู่กับพระเจ้าในสวรรค์สถาน

คำสอนการนมัสการจาก สดด.63:1-8 :

พระเจ้าสั่งให้สรรเสริญด้วยใจชื่นชมยินดีแต่ต้องมาจากผลฝ่ายวิญญาณ เพราะการสรรเสริญนมัสการไม่ใช่การร้องเล่นเต้นรำ เป็นการแสดงออกฝ่ายวิญญาณถึงการรู้จักพระเจ้า ความรักที่มีต่อพระองค์ แสดงออกว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่ในชีวิตของเขามากเพียงไร การสรรเสริญนมัสการต้องตั้งเป้าให้เกิดผลฝ่ายวิญญาณ นมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง

เพราะการสรรเสริญนมัสการไม่ใช่การร้องเล่นเต้นรำ เป็นการแสดงออกฝ่ายวิญญาณถึงการรู้จักพระเจ้า (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

สดด.9:1-2

1 ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระเจ้าด้วยสิ้นสุดใจของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะบอกถึงการอัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์

2 ข้าพระองค์จะยินดีและปลาบปลื้มใจในพระองค์ ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์

อสย.61:10-11

10 ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่งในพระเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าจะลิงโลดในพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ได้ทรงสวมข้าพเจ้าด้วยเสื้อผ้าแห่งความรอด พระองค์ทรงคลุมข้าพเจ้าด้วยเสื้อแห่งความชอบธรรม อย่างเจ้าบ่าวประดับตัวด้วยพวงมาลัย และอย่างเจ้าสาวตกแต่งตัวด้วยเพชรนิลจินดา

11 เพราะแผ่นดินโลกได้เกิดหน่อของมัน และสวนทำให้สิ่งที่หว่านในนั้นงอกขึ้นมาฉันใด พระเจ้าจะทรงทำให้ความชอบธรรมและความสรรเสริญ งอกขึ้นมาต่อหน้าบรรดาประชาชาติฉันนั้น

ใจที่แสวงหาอยากใกล้ชิดพระองค์จึงเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของนักนมัสการและพระองค์เป็นผู้กระทำให้สำเร็จ (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

คำถาม ถ้าไม่อยากใกล้ชิดพระเจ้าแล้วกำลังใกล้ชิดใคร

ความอิ่มเอมใจ (ปลาบปลื้มใจ) ความยินดี และอื่นๆ เช่น มีความรัก สันติสุข ล้วนเป็นสิ่งที่พระเจ้ามอบให้ไม่ได้สร้างขึ้นเอง เป็นเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ จึงไม่ขึ้นกับบริบทสถานการณ์รอบข้างตราบเท่าที่พลังฝ่ายวิญญาณอยู่เหนือบริบท (สัมผัสความรัก อิ่มเอมใจ มีสันติสุขแม้ในบริบทไม่น่ายินดี) 

ฟป.4:9 จงกระทำทุกสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้และได้รับไว้ ได้ยิน และได้เห็นในข้าพเจ้าแล้ว และพระเจ้าแห่งสันติสุขจะทรงสถิตกับท่าน

Whatever you have learned or received or heard from me, or seen in me—put it into practice. And the God of peace will be with you.

2ธส.3:16 ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติสุข ทรงโปรดประทานสันติสุขให้แก่ท่านทั้งหลายทุกเวลาและทุกทาง ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าดำรงอยู่กับท่านทุกคนเถิด

Now may the Lord of peace himself give you peace at all times and in every way. The Lord be with all of you.

องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติสุข (Lord of peace) ตัวพระองค์คือสันติสุข เช่นเดียวกับที่ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรัก

วิธีง่ายๆ เพื่อสัมผัสพระเจ้าง่ายๆ (25) : มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าดังดาวิดกับพระเจ้าของเขา

วิธีการง่ายๆ เพื่อสัมผัสพระเจ้าง่ายๆ ทำได้ดังนี้

1. จงมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าของท่านดังดาวิดกับพระเจ้าของเขา

จงมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าของท่านดังดาวิดกับพระเจ้าของเขา (สดด.63:1-8) สัมผัสได้ว่า God is good; his love endures forever.

สดด.106:1 จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์

Praise the LORD. Give thanks to the LORD, for he is good; his love endures forever.

ความรักในที่นี้เป็นความรักฝ่ายวิญญาณ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับผู้เชื่อ เข้าถึงว่าพระองค์ประเสริฐเพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์

สดด.106:1 ให้หลักการสำคัญว่าเหตุที่สรรเสริญขอบพระคุณ “เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์” นักนมัสการต้องพัฒนาฝ่ายวิญญาณจนเข้าถึงจุดนี้ให้จงได้ (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น)

ท่านกำลังนมัสการด้วยเหตุผลใด 

สดด.106:1 เป็นคำบัญชา

-------------------