เทคโนโลยี 5G ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เรื่องรถไถอัจฉริยะ แพทย์ AI รถไร้คนขับ เหล่านี้มีอยู่แล้ว และก้าวล้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่ปีข้างหน้าสิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ของแปลกใหม่ ไม่ต่างจาก “มือถือ” ที่มีใช้แทบทุกคน
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2021 นายเหริน เจิ้งเฟย ซีอีโอหัวเว่ยได้หารือกับนายกฯ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงความร่วมมือการใช้เทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย
โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญความร่วมมือหลายด้าน เช่น การเกษตรดิจิทัล ระบบ Logistics
โรงพยาบาลอัจฉริยะ
ควรขยายความเข้าใจต่อว่าการเกษตรดิจิทัลสนับสนุนการทำไร่ทำนาด้วยหุ่นยนต์
อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าต่อไป “คนทำเกษตร” อาจเป็นคนที่นั่งในห้องแอร์เย็นฉ่ำในกรุงเทพฯ
ควบคุมรถไถให้ไถที่นาที่ห่างจากกรุงเทพฯ 500 กิโล
หรือแม้กระทั่งคนคุมรถไถนี้อาจเป็นคนจีนที่อยู่ประเทศจีนหรือประเทศใดๆ
หากระบบสัญญาณ 5G เชื่อมถึงกัน
ทุกวันนี้จีนได้พัฒนาเทคโนโลยีการทำนาดิจิทัลครบทุกขั้นตอน
ตั้งแต่ไถพรวนดิน หว่านเมล็ด ให้ปุ๋ย ฉีดยาฆ่าแมลง จนถึงเก็บเกี่ยว คงไม่ผิดถ้าจะพูดว่าชาวไร่ชาวนาในอนาคตทำไร่ทำนา
โดยควบคุมสั่งการจากห้องแอร์
ส่วนระบบ Logistics นั้นอาจเป็นรถยนต์ไร้คนขับ
รถโดยสารไร้คนขับที่ให้บริการได้ทุกที่ตลอด 24 ชม. การควบคุมไฟจราจร ฯลฯ
ทุกอย่างทำงานแบบอัตโนมัติ โดยมีศูนย์ควบคุม ณ ที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้
เทคโนโลยีนี้จะใช้กับท่าเรือ สนามบินด้วย
ด้านการรักษาพยาบาล รพ.ศิริราชคือต้นแบบ “โรงพยาบาลอัจฉริยะ”
ที่ใช้ความสามารถของ AI เข้ามาช่วย มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า
AI สามารถตรวจวินิจฉัยโรคถูกต้องแม่นยำกว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เกิดนโยบายใช้ “แพทย์ AI” ทำหน้าที่แทนแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล
ขาดแคลนแพทย์ หรือใช้ “แพทย์ AI” สนับสนุนการทำงานของแพทย์
ข้อมูลผู้ป่วยใน
(IPD) ทุกคนจะอยู่ภายใต้การตรวจตราใกล้ชิดจากระบบ AI ให้รู้ว่าอาการคนไข้กำลังดีขึ้นหรือแย่ลง ตอบสนองการรักษาหรือไม่
ช่วยแบ่งเบาภาระแพทย์พยาบาลได้มาก
AI ในอนาคตจะส่งข้อมูลดูแลสุขภาพแก่แต่ละคนอย่างเจาะจง
คอยเตือนว่าวันนี้กินมากไป ออกกำลังกายน้อยไป ได้เวลากินยาแล้ว
แนะนำให้พบแพทย์คนไหนเวลาใด รวมความได้ว่าข้อมูลสุขภาพของทุกคนอยู่ในการดูแลของ “แพทย์ AI”
อีกเรื่องที่ควรเข้าใจคือ
หัวเว่ยเข้าไทยหลายปีแล้ว ก่อตั้ง Huawei ASEAN Academy ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
หรือ EEC และได้อบรมคนไทยกว่า 1 แสนคนแล้วทั้งบุคลากรจากภาครัฐ
เอกชนและภาคการศึกษา ซึ่งมีความจำเป็นเตรียมคนไทยให้พร้อมกับเทคโนโลยี 5G และระบบต่างๆ
การใช้
5G เหมาะอย่างยิ่งกับเขตพัฒนา EEC
ตรงตามเป้าหมายให้เป็นพื้นที่แห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีขั้นสูงสุด
สมบูรณ์ทัดเทียมเมืองอัจฉริยะต่างๆ ทั่วโลก EEC
จะเป็นพื้นที่ของคนนานาชาติเข้ามาทำงาน ตั้งบ้านเรือนถิ่นฐาน
พร้อมกับพัฒนาประเทศไทย ไม่ช้าไม่นาน EEC จะเป็นพื้นที่
“เมืองนานาชาติ”
ด้วยความสามารถของ 5G AI
และอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกันอาจเป็นสาเหตุทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต่อต้านหัวเว่ย
พยายามกีดกันประเทศอื่นๆ ไม่ให้ใช้ระบบของบริษัทนี้ ถึงขั้นขู่คว่ำบาตร
แต่ไม่อาจต้านรัฐบาลประยุทธ์ แม้ไทยจะเป็นพันธมิตรสหรัฐฯ ด้านความมั่นคงก็ตาม
ต้องย้ำว่าการใช้เทคโนโลยี
5G ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เรื่องรถไถอัจฉริยะ แพทย์ AI รถไร้คนขับ เหล่านี้มีอยู่แล้ว และก้าวล้ำขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่ปีข้างหน้าสิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่ของแปลกใหม่
เหมือนโทรศัพท์มือถือที่ครั้งหนึ่งใหญ่เทอะทะ ราคาเป็นแสน แต่ตอนนี้แทบทุกคนมีใช้
เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของร่างกายที่นิยมเรียกว่า “มือถือ”
----------------------
อ้างอิง :
1. "หัวเว่ย"พบ"บิ๊กตู่"พัฒนาความร่วมมือเทคโนโลยี,
https://www.posttoday.com/politic/news/669085
2. ลงนาม MOU เปิด Huawei
ASEAN Academy แห่งแรกของไทยในพื้นที่อีอีซี, https://www.enterpriseitpro.net/mou-huawei-asean-academy/
3. ศิริราช - กสทช – หัวเว่ย
ร่วมเปิดโครงการ “ศิริราชต้นแบบโรงพยาบาลอัจฉริยะ
ระดับโลกด้วยเทคโนโลยีเครือข่าย 5G (Siriraj World Class 5G
Smart Hospital)”, https://www.si.mahidol.ac.th/th/hotnewsdetail.asp?hn_id=2728
4. Huawei on a 5G
roll in US ally Thailand, https://asiatimes.com/2022/01/huawei-on-a-5g-roll-in-us-ally-thailand/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น