โลกเริ่มใช้วัคซีนแต่กว่าจะเห็นผลชัดต้องกินเวลา ในยามนี้การพยายามอยู่แต่ในบ้านเป็นมาตรการแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนปกติ การป้องกันตัวเองคือการป้องกันคนอื่น การป้องกันคนอื่นคือการป้องกันตนเอง
ขณะนี้โรคโควิด-19 ระบาดหนักทั่วโลก เมื่อสิ้นปี 2020 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่าจะระบาดตลอดปีนี้ (2021) หรือจนกว่าจะเกิด "Herd immunity" (ภูมิคุ้มกันระดับชุมชน) วัคซีนต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนหรือเป็นปีกว่าจะเห็นผลชัด
ประเด็นความเข้าสำคัญ :
ประการแรก
ระบาดง่ายกว่าที่เคยเข้าใจ
ในช่วงต้นปี
2020 เมื่อโควิด-19 ระบาดหนักในจีนจะเข้าใจกันว่าผู้ป่วยมักจะมีไข้ ไอ เจ็บคอ
หายใจเหนื่อยหอบ เมื่อเข้าสู่มิถุนายนแอนโทนี เฟาซี (Anthony Fauci) ผู้มีบทบาทสูงต่อการควบคุมโควิด-19 ของสหรัฐชี้ว่าผู้ป่วย
20-40 % ไม่แสดงอาการ ใกล้เคียงกับข้อมูลใหม่ของ WHO ที่ประเมินว่า 16% ของผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการ (asymptomatic) และสามารถแพร่เชื้อแก่คนอื่นๆ
ต้นเดือนตุลาคมงานวิจัยของสำนักสถิติแห่งชาติสหราชอาณาจักร
(ONS) พบว่า 86.1% ของผู้ป่วย
(ช่วงเดือนเมษาถึงมิถุนา) ไม่แสดงอาการหลัก (มีไข้ ไอ เสียการรับกลิ่นรส) ที่น่าตกใจคือในช่วงเวลาเดียวกันพบว่า
20 % ของพนักงานร้านขายของชำสหรัฐติดโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นแบบไม่แสดงอาการ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
ลำพังความเข้าใจเรื่องอาการอย่างเดียวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีคนจำนวนมากที่ติดโรคกำลังแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว
การล็อกดาวน์พยายามอยู่แต่ในบ้านเป็นมาตรการแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนปกติ
ไมว่าผู้ติดเชื้อแสดงอาการหรือไม่ เพราะหลังจาก 14 วันผู้ป่วยโควิด-19 จะแสดงตัวให้รู้หรือไม่ก็หายเอง
ใครที่ไม่สนับสนุนการอยู่บ้านเท่ากับปล่อยให้โรคระบาดต่อไป
ประการที่
2 คำถามจะอดตายหรือป่วยตายดี
บางคนคิดอย่างสุดโต่ง บ้างว่าจะอดตายเพราะล็อกดาวน์ บ้างว่าหากไม่ล็อกดาวน์จะป่วยตาย
บางคนอ้างว่าส่วนใหญ่หายเอง เป็นความจริงที่ผู้เสียชีวิตเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยและน้อยลงทุกที
ผู้เสียชีวิตเมื่อคำนวณทั้งโลกอาจแค่ 1-2% (หรือต่ำกว่านี้)
แต่เนื่องจากแพร่ระบาดเร็ว เป็นไวรัสใหม่ ในเวลาปีเดียวเสียชีวิตแล้ว
1,900,000 คน เฉพาะอเมริกาตาย 350,000
คน ลองคำนวณว่ามีกี่คนที่ต้องเจ็บปวดเมื่อคนในครอบครัวเสียชีวิต
ต้องเข้าใจว่าโรคระบาดไม่ใช่เรื่องใหม่
มนุษย์เผชิญโรคระบาดมามาก ถ้าย้อนกลับ 20 ปี ไทยเคยเผชิญโรคระบาดหลายครั้ง
จำได้ไหมไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู ฯลฯ
โลกมีองค์ความรู้เรื่องระบาดวิทยา
มีการปรึกษาหารือระดับโลก องค์การอนามัยโลกเป็นพี่เลี้ยง สอบถามให้ข้อมูล รัฐบาลมองรอบด้าน
ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ภาวะเศรษฐกิจสังคม การตัดสินใจแต่ละครั้งมาจากการประมวลข้อมูลทุกด้านเข้าด้วยกัน
ผ่านการปรึกษาหารือจากผู้เชี่ยวชาญทุกด้านจนได้ข้อสรุปที่ลงตัว นานาชาติรู้ดีอยู่แล้วว่าผลการปิดเมืองเป็นอย่างไร
ไม่มีรัฐบาลใดอยากล็อกดาวน์ถ้าไม่จำเป็น การจะพูดเรื่องผลกระทบต้องตั้งบนความรู้ความเข้าใจ
จะอดตายหรือป่วยตายล้วนเป็นชีวิตคนมากมาย แต่ละประเทศไม่จำต้องทำเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว
เพราะบริบทต่างกัน ความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจต่างกัน
ความพร้อมด้านสาธารณสุขไม่เท่ากัน แม้กระทั่งความร่วมมือจากประชาชนก็ต่างกันด้วย
ประการที่
3 คุณภาพของวัคซีนรุ่นแรก
วัคซีนที่ใช้ขณะนี้เป็นวัคซีนรุ่นแรก
ไม่มีวัคซีนตัวใดให้ผลเต็มร้อย หมายความว่ายังมีคนที่จะติดโรคแม้ได้รับวัคซีนแล้ว นอกจากนี้แอนโทนี
เฟาซีชี้ว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ได้แปลว่าจะไม่ติดเชื้อโรคโควิด-19 อีก เพียงแต่เมื่อติดเชื้อจะไม่ป่วยหนักหรือไม่รู้สึกว่าป่วยและยังเป็นผู้แพร่เชื้อได้ด้วย
ประการที่
4 ต้องใช้เวลากี่ปีกว่าจะฉีดวัคซีนได้มากพอ
ความเข้าใจอีกข้อคือเนื่องจากต้องฉีดทั่วโลก ฉีดให้มากที่สุด
เรื่องนี้จำต้องใช้เวลาและจะกินเวลาไม่เท่ากัน Robert Redfield ผอ.ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) คาดว่าอเมริกาจะใช้เวลา
6-9 เดือน ในขณะที่ชาร์วิล พาเทล (Sharvil Patel)
เจ้าของบริษัทไซดัส คาดิลา (Zydus Cadila) ของอินเดียผู้วิจัยวัคซีน
ZyCov-D ประเมินว่าต้องใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าคนอินเดียได้วัคซีนครบ
ใกล้เคียงกับที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ประเมินว่าจะต้องใช้เวลา 3-5 ปีกว่าจะฉีดวัคซีนให้ประชากร
60-70% เพียงพอต่อการควบคุมโรคระบาด
ดังนั้น
บางประเทศอาจใช้เวลาไม่เกิน 1 ปีแต่ไม่ใช่ทุกประเทศทำได้เช่นนี้
ประการที่
5 กระแสคนไม่ฉีดวัคซีน
ในอีกด้านหนึ่ง ในขณะที่หน่วยงานรัฐเร่งฉีดวัคซีน มีกระแสต่อต้านวัคซีนเคลื่อนไหวเป็นขบวนการ
ยกตัวอย่างกลุ่ม Ohio Advocates for Medical Freedom
ย้ำว่าการฉีดหรือไม่เป็นเสรีภาพ รัฐบังคับไม่ได้ ทำนองเดียวกับการสวมใส่หน้ากากอนามัย
ผลสำรวจของ
Gallup ที่นำเสนอสิงหาคมพบว่าคนอเมริกันร้อยละ 65
เท่านั้นที่ยอมให้วัคซีน ร้อยละ 35 บอกว่าจะไม่ฉีดแม้ อย.สหรัฐรับรองและฉีดให้ฟรี ใกล้เคียงกับผลสำรวจของ
USA TODAY/ Suffolk เมื่อปลายสิงหาคมพบว่าคนอเมริกัน 2 ใน 3
(67%) ไม่อยากฉีดวัคซีน ร้อยละ 23 ประกาศว่าจะไม่ใช้เด็ดขาด บางคนให้เหตุผลว่าไม่อยากเป็นหนูทดลอง
บางคนคิดว่าหากยิ่งรัฐบาลบังคับฉีดจะยิ่งน่าสงสัยว่ามีอะไรเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่
ส่วนผลโพลของ
AP-NORC เมื่อต้นธันวาคม คนอเมริกัน 47% ยินดีไปฉีดวัคซีน 27% ไม่แน่ใจ 26% บอกว่าไม่ไปฉีดแน่นอน
จะเห็นว่าผู้ใหญ่อเมริกันอย่างน้อย
20% ยืนยันว่าจะไม่ฉีดวัคซีนเด็ดขาด
ด้านยุโรป
ผลโพลของสื่อ Le Journal du Dimanche พบว่าคนฝรั่งเศส 41% เท่านั้นที่คิดจะฉีดวัคซีนโควิด-19
ประการที่
6 โรคระบาดจะยุติหากประชากรโลก 70% ได้รับวัคซีน
ไม่ว่าจะฉีดช้าหรือเร็ว WHO ประเมินว่าการระบาดจะยุติหากประชากรโลก
65-70% ได้รับวัคซีน (หมายถึง 70% ในทุกพื้นที่) Amesh
Adalja จาก Johns Hopkins Center for Health Security กล่าวทำนองเดียวกันว่าสหรัฐจะปลอดโรคระบาดหากคนในประเทศ 70% ขึ้นไปได้รับวัคซีน ทั้งนี้ขึ้นกับประสิทธิภาพวัคซีนด้วย
หากประสิทธิภาพต่ำตัวเลขผู้ฉีดวัคซีนต้องมากกว่านี้
ประโยชน์ของวัคซีนรุ่นแรกคือป้องกันเจ็บป่วยรุนแรงแต่ยังติดเชื้อและแพร่เชื้อแก่คนอื่นโดยไม่รู้ตัว
นั่นหมายความว่าหากคนที่ได้รับวัคซีนแล้วใช้ชีวิตแบบไม่ควบคุมการแพร่เชื้อคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนยังเสี่ยงติดโรค
ข้อเสียสำคัญอีกประการคือ หากฉีดล่าช้ายิ่งเสี่ยงกลายพันธุ์ Jeremy
Farrar จาก Wellcome Trust ชี้หากฉีดวัคซีนล่าช้ายิ่งเปิดโอกาสให้เชื้อกลายพันธุ์
เสี่ยงเกิดสายพันธุ์ก่อโรครุนแรง บางประเทศที่ระบบสาธารณสุขอ่อนแออาจเป็นที่มาของสายพันธุ์ใหม่
เช่น แอฟริกา
ประการที่
7 ต้องรออีก “หลายปี” กว่าจะได้วัคซีนรุ่นใหม่
ดังที่เคยนำเสนอแล้วว่าเป็นความเข้าใจผิดถ้าคิดว่าโลกจะฟื้นคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็วหลังมีวัคซีนรุ่นแรก
ต้องติดตามว่าวัคซีนให้ภูมิคุ้มกันกี่เดือนกี่ปี ป้องกันได้มากน้อยแค่ไหน ครอบคลุมไวรัสที่กลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ
หรือไม่
ล่าสุดยังไม่มีวัคซีนใดที่ทดลองใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า
18 ปี ต้องติดตามว่าจะมีวัคซีนตัวใดใช้ครอบคลุมทุกวัยหรือต้องวิจัยวัคซีนที่ใช้เฉพาะกลุ่มวัย
การมีวัคซีนในปีนี้
(2021) ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่ไม่เป็นเหตุฟื้นคืนสู่สภาพเดิม คงต้องรออีก
“หลายปี” ในการพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากพอ
ประการที 8 ป้องกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ควบคุมได้
ต้องยอมรับว่าโรคระบาดโควิด-19 ไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
โจทย์ใหม่จึงอยู่ที่ทำอย่างไรจะควบคุมให้การระบาดอยู่ในระดับที่รับได้ เช่น
แพร่ระบาดในพื้นที่จำกัด ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจแต่น้อย คนป่วยไม่ล้นโรงพยาบาล
ประเด็นผู้ป่วยไม่ล้นโรงพยาบาลเป็นเรื่องสำคัญ
ต้องเริ่มจากเข้าใจว่าระบบสาธารณสุข ขีดความสามารถในการรับผู้ป่วยของแต่ละประเทศมีจำกัด
ไม่สามารถผลิตแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชั่วข้ามคืน
อีกทั้งในภาวะปกติโรงพยาบาลมีคนไข้ประจำอยู่แล้ว
มีคนเจ็บป่วยรายใหม่ที่ต้องรับการรักษา โควิด-19
เป็นโรคใหม่ที่เพิ่มเข้ามาและเพิ่มภาระงานแก่ระบบสาธารณสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
โควิด-19 ไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ป่วยโรคนี้เท่านั้นแต่จะกระทบต่อคนป่วยอื่นๆ
คนไข้เดิมที่ต้องรับการตรวจรักษาเป็นประจำ กรณีเลวร้ายสุด
หากมีผู้ป่วยมากจนโรงพยาบาลรับไม่ไหว แพทย์มีสิทธิเลือกรับรักษาและปล่อยทิ้งบางคน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมทุกประเทศต้องระวังไม่ให้คนป่วยล้นโรงพยาบาล ต้องจำกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับที่รับได้
การป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยย่อมดีกว่าแน่นอน
การป้องกันตัวเองคือการป้องกันคนอื่น การป้องกันคนอื่นคือการป้องกันตนเอง
10 มกราคม 2021
ชาญชัย คุ้มปัญญา
thai2004chan@yahoo.com
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 25 ฉบับที่ 8825 วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2564)
---------------------------
1. About 20% of grocery store workers had Covid-19, and most
didn't have symptoms, study found. (2020, October 30). CNBC. Retrieved from
https://edition.cnn.com/2020/10/29/health/grocery-workers-increased-covid-19-risk-wellness/index.html
2. Analysis: Can first COVID-19
vaccines bring herd immunity? Experts have doubts. (2020, November
18). Reuters. Retrieved from
https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-immunity-analysis/analysis-can-first-covid-19-vaccines-bring-herd-immunity-experts-have-doubts-idUSKBN27Y124
3. AP-NORC poll: Only half in US want shots as vaccine nears.
(2020, December 9). Reuters.
Retrieved from
https://apnews.com/article/ap-norc-poll-us-half-want-vaccine-shots-4d98dbfc0a64d60d52ac84c3065dac55
4. China's Sinopharm says its coronavirus vaccine is 79%
effective. (2020, December 30).
CNN. Retrieved from
https://edition.cnn.com/2020/12/30/asia/china-sinopharm-vaccine-efficacy-intl-hnk/index.html
5. Coronavirus vaccine won’t mean end
of public health measures, Fauci says. (2020, November 19). Fox News. Retrieved from
https://www.foxnews.com/health/coronavirus-vaccine-public-health-measures-fauci
6. Covid-19 vaccine could take 4 years
to distribute globally, says major Indian drug maker. (2020,
November 18). The National. Retrieved from
https://www.thenationalnews.com/uae/health/covid-19-vaccine-could-take-4-years-to-distribute-globally-says-major-indian-drug-maker-1.1113586
7. Covid: more than 80% of positive UK cases in study had no
core symptoms. (2020, October 8). The
Guardian. Retrieved from
https://www.theguardian.com/world/2020/oct/08/more-than-80-positive-cases-in-covid-study-had-no-core-symptoms
8. Dr. Fauci says vaccinating people
who disregard Covid as ‘fake news’ could be ‘a real problem’. (2020,
November 19). CNBC. Retrieved from
https://www.cnbc.com/2020/11/19/coronavirus-dr-fauci-says-vaccinating-people-who-disregard-covid-as-fake-news-could-be-a-real-problem-.html
9. Exclusive: Two-thirds of Americans say they won't get
COVID-19 vaccine when it's first available, USA TODAY/ Suffolk Poll shows. (2020, September 4). USA Today.
Retrieved from
https://www.usatoday.com/story/news/politics/2020/09/04/covid-19-two-thirds-us-wont-take-vaccine-right-away-poll-shows/5696982002/
10. Fauci says he's "never seen" a virus with
range of symptoms like Covid-19. (2020, June 23). CNN. Retrieved from
https://edition.cnn.com/politics/live-news/fauci-redfield-coronavirus-testimony-06-23-20/h_52894bc5b89034950d30d708fa9a9532
11. Fauci: coronavirus pandemic that
‘took over the planet’ is far from over. (2020, June 10). The Guardian. Retrieved from
https://www.theguardian.com/world/2020/jun/09/anthony-fauci-coronavirus-pandemic-far-from-over
12. France, world’s most
vaccine-sceptic country, warily eyes Covid-19 shots. (2020,
December 3). France24. Retrieved from
https://www.france24.com/en/europe/20201203-france-world-s-most-vaccine-sceptic-country-warily-eyes-covid-19-shots
13. One in Three Americans Would Not Get COVID-19 Vaccine. (2020, August 7). Gallup. Retrieved
from https://news.gallup.com/poll/317018/one-three-americans-not-covid-vaccine.aspx
14. PH COVID-19 vaccination goal: 70% of Pinoys in 5 years.
(2020, November 26). inquirerdotnet.
Retrieved from https://newsinfo.inquirer.net/1364963/ph-vaccination-goal-70-of-pinoys-in-5-yrs
15. Top health official tells Congress vaccine will take
time, prompting Trump backlash. (2020, September 17). The Age. Retrieved from
https://www.theage.com.au/world/north-america/top-health-official-tells-congress-vaccine-will-take-time-prompting-trump-backlash-20200917-p55wfq.html
16. Treasury Secretary Mnuchin says ‘we can’t shut down the
economy again’. (2020, June 11). CNBC.
Retrieved from
https://www.cnbc.com/2020/06/11/treasury-secretary-mnuchin-says-we-cant-shut-down-the-economy-again.html
17. Vaccine opponents rebrand as
rollout of Covid-19 shots looms. (2020, December 5). Politico. Retrieved from
https://www.politico.com/news/2020/12/05/covid-19-anti-vaxxers-442984
18. "We Are in a Dramatic Race
Against a Changing Virus". (2021, January 5). Spiegel Online. Retrieved from
https://www.spiegel.de/international/world/jeremy-farrar-on-the-coronavirus-we-are-in-a-dramatic-race-against-a-changing-virus-a-4afdbc24-b5a1-499d-a0d1-ae95415844ed
19. WHO chief scientist warns against Covid complacency,
says herd immunity unlikely until end-2021. (2020,
December 23). CNBC. Retrieved from
https://www.cnbc.com/2020/12/23/who-some-level-of-herd-immunity-may-be-reached-by-end-2021-.html
--------------------------
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น