ถ้าทุกคนแบ่งปันแก่กันและกัน ทุกคนจะได้และมีเพียงพอ การกักตุนหายไป รวมถึงความวิตกจริต จมอยู่ในความทุกข์โศก เพราะการ “ให้” เปลี่ยนโลกจากความวิตกกังวลสู่โลกที่ปรารถนาดีต่อกัน
ในขณะที่ไวรัสโคโรนาโควิด-19 (COVID-19) กำลังแพร่ระบาด
หลายพื้นที่ขาดแคลนหลายสิ่ง เช่น ขาดหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ โรงพยาบาลขาดเตียง
ขาดพยาบาลเจ้าหน้าที่สาธารณสุข บางประเทศขาดแม้กระทั่งกระดาษชำระ ผู้คนมากมายเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐ
กำลังอยู่ในโลกแห่งความขาดแคลน ขัดสน
ปัญหาอันเนื่องจากไวรัสนี้จึงไม่เฉพาะเจ็บป่วยจากเชื้อโรคเท่านั้น แต่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่
สภาพเศรษฐกิจ สุขภาพจิตทั้งตัวเอง คนรอบกายและสังคม
เกิดปัญหาลูกโซ่กระทบกันไปมาไม่สิ้นสุด
Oxfam ประเมินว่าหายนะทางเศรษฐกิจรอบนี้สาหัสกว่าวิกฤต
2008 คนยากจนสุดๆ (extreme poverty) จะเพิ่มจาก 434
ล้านคนเป็น 922 ล้านคน (เพิ่มขึ้น 112 เปอร์เซ็นต์) หมายความว่าปีนี้มีอีก 488
ล้านคนที่ขาดแคลนสุดๆ
ในอีกด้านหนึ่งประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มรณรงค์ให้ประชาชนทั้งประเทศติดแฮชแท็ก
#AmericaWorksTogether ให้คนอเมริกันช่วยเหลือกันและกัน
บริษัทจ้างคนทำงาน ชื่นชมผู้ที่ช่วยเหลือสังคม
เป็นเรื่องน่าชื่นชมอย่างยิ่งต่อผู้นำประเทศเช่นนี้
บทความนี้นำเสนอยุทธศาสตร์เอาชนะโควิด-19
ด้วยการให้อันหมายถึงการแบ่งปันสิ่งดี สิ่งสร้างสรรค์แก่ตัวเอง คนรอบกายและสังคม
ให้อะไรได้บ้าง :
ประการแรก ให้ตัวเอง
หลายเดือนหลายปีที่ผ่านมาเราอาจยุ่งวุ่นวายกับงาน
การมีเวลาอยู่บ้านนานๆ เป็นโอกาสดีที่จะทบทวนตัวเอง วางแผนอนาคตที่น่าจะเปลี่ยนแปลงไป
คิดถึงงานใหม่ ช่องทางรายได้เพิ่มเติม สามารถพัฒนาความสามารถความรู้ใหม่
มีหลักสูตรเรียนออนไลน์ฟรีมากมายทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน งานอาชีพ สารพัดภาษา
ห้องสมุดออนไลน์ทั้งจากแหล่งในประเทศกับต่างประเทศ
เป็นโอกาสที่จะมีเวลาสำหรับตัวเอง
พัฒนาและคิดสร้างโอกาสใหม่ การอยู่บ้านจึงไม่สูญเปล่า
ประการที่ 2 ให้ครอบครัว
ครอบครัวเป็นสถาบันพื้นฐานของสังคม ครอบครัวที่เข้มแข็งคือหลักประกันของสมาชิกทุกคนในนั้น
ครอบครัวจึงเป็นเป้าหมายแรกๆ ของการ “ให้” การทำอาหารด้วยกัน ร่วมทำความสะอาดบ้าน เป็นวิธีง่ายๆ
ให้ครอบครัวอบอุ่น เข้าใจกันและกัน เป็นเวลาดีที่พ่อแม่จะช่วยเด็กเรียนหนังสือหรือเรียนพร้อมๆ
กับลูกตัวเอง
ที่ผ่านมาบางคนอาจงานเยอะงานหนักไม่มีเวลาดูแลญาติผู้ใหญ่เท่าที่ควร
วิกฤตไวรัสโคโรนาสามารถเป็นคุณประโยชน์มหาศาลหากใช้เวลานี้ดูแลญาติผู้ใหญ่ในบ้าน
ครอบครัวเข้มแข็ง
สมาชิกทุกคนจะแข็งแรง
มีคำกล่าวว่าโอกาสเหมือนไอศกรีมถ้าไม่กินก็ละลาย
ประการที่ 3 ให้เพื่อนบ้าน
ญาติ เพื่อนๆ
การพยายามอยู่แต่ในบ้านทำให้ตัวไกลกันแต่เป็นเวลาที่จะติดต่อไต่ถามสารทุกข์สุขดิบด้วยเครื่องมือต่างๆ
อาจตั้งเวลาคุยกับแต่ละบ้าน เพื่อนเก่าแต่ละคน เป็นเวลาดีที่จะค่อยๆ พูดคุยกัน เวลาที่ผ่านไปจะไม่เหงาเลย
เราสามารถสอบถามเพื่อนบ้านญาติพี่น้องว่าเขาขาดเหลืออะไร
ถ้า 3 บ้านทำกับข้าวคนละอย่าง ต่างแบ่งปันซึ่งกันและกัน ทั้ง 3
บ้านจะได้กินกับข้าว 3 อย่างพร้อมๆ กัน มากกว่ากับข้าวคือมิตรภาพ นำสู่การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องอื่นๆ
ต่อไป
ในยามที่ทุกคนควรใส่หน้ากากอนามัย เราสามารถช่วยตัวเอง คนอื่น เพื่อนบ้าน
ด้วยการทำหน้ากากผ้าแจกจ่ายแก่คนอื่นๆ สิ่งเล็กๆ ที่อาจช่วยชีวิตคน
ทุกชุมชนทุกหมู่บ้านสามารถร่วมมือกันสร้างชุมชนแห่งการให้การแบ่งปัน
ประการที่ 4 ให้สังคม
ทุกคนสามารถให้กำลังใจแก่กันและกัน
เด็กหลายประเทศทั่วโลกอยู่บ้านวาดรูปหรือทำบางอย่างที่ให้กำลังใจแก่คนอื่น
เด็กเหล่านี้เป็นนักรบที่ทำสงครามทางใจ ปกป้องครอบครัวและสังคมให้เข้มแข็งสู้กับไวรัสต่อไป
ยากที่จะเข้าถึงผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลแต่สามารถติดต่อสื่อสารทางออนไลน์
พวก
Youtuber Blogger นักทำสื่อออนไลน์ต่างใช้เวลาช่วงนี้ระดมทำสื่อของตนออกเผยแพร่
รองรับผู้สนใจที่เข้ามาดูมากมาย บางคนใช้โอกาสนี้ถ่ายทอดความรู้ แสดงความสามารถของตนผ่านโซเชียลมีเดีย
เป็นประโยชน์แก่สังคม เป็นอีกวิธีที่ให้กำลังใจแก่กันและกัน
หลายคนว่างงานแต่ไม่ว่างช่วยเหลือคนอื่น
ใช้ความรู้สามารถที่มีอยู่ช่วยเหลือสังคม บางคนมีทักษะประสบการณ์สูงที่ผ่านมายุ่งกับงานอาชีพ
ตอนนี้ใช้เวลาเพื่อช่วยสังคมเต็มที่
วินัยสังคมตรงข้ามกับความสับสนอลหม่าน
เสรีภาพแท้คือเสรีภาพภายใต้ขอบเขต มีจิตสำนึกต่อสังคม 1 คนที่ติดเชื้ออาจเป็นเหตุให้อีกหลายคนติดเชื้อ
เกิดปัญหาลูกโซ่ไม่รู้จบ การเอาชนะโควิด-19 ในยามนี้คือพยายามอยู่แต่ในบ้าน
ดูแลป้องกันตัวเองและคนรอบกายไม่ให้ติดเชื้อ ทั้งนี้ต้องมีวินัย
ปฏิบัติอย่างถูกต้องเสมอ
จริงหรือไม่ที่หลายคนล้มป่วยเพราะขาดวินัย
ในช่วงนี้วัด
โบสถ์ มัสยิด องค์กรหรือกลุ่มช่วยเหลือกำลังระดมอาหาร อาสาสมัครเพื่อแจกจ่ายอาหารข้าวของที่จำเป็นแก่คนยากจน
คนไร้ที่พึ่งพิง บางองค์กรแจกจ่ายวันละนับสิบตันเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใครสักคนที่ไม่ได้รับการดูแล
บริษัทห้างร้านหลายแห่งแบ่งเวลาให้พนักงานทำหน้ากากอนามัยแจกตามโรงพยาบาล
บางคนมีเงินบริจาคเงิน บางคนมีสินค้าบริจาคสินค้า อีกสิ่งที่บริจาคได้คือโลหิต ศูนย์รับบริจาคโลหิตทุกประเทศขอให้ประชาชนร่วมบริจาคโลหิต
เลือดเป็นของสำคัญอีกอย่างที่จำเป็นต่อการช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อโควิด-19
เหล่านี้เป็นตัวอย่างของการให้
ข้อคิดเรื่องการให้ :
ในภาวะที่ผู้คนมากมายเรียกร้องพร้อมๆ กัน
ความต้องการที่ท่วมท้นมหาศาลทำให้ขาดแคลน เกิดการกักตุน สินค้าที่คนเรียกร้องจึงหายาก
ราคาแพง อยู่ในความวิตกกังวลว่าไม่มี ไม่พอ ยิ่งร้องขอมากยิ่งขาดแคลน เกิดสินค้าเถื่อนไร้คุณภาพ
มีหลายกรณีที่ผู้ใช้คิดว่าป้องกันได้แต่กลับติดเชื้อเพราะผู้ผลิตหวังแค่กำไรผลิตของไร้คุณภาพ
ในทางกลับกันถ้ารู้จักแบ่งปัน ทุกคนจะมีเพียงพอ สินค้าเกินราคาจะหายไปเอง
จากตัวอย่างข้อหัว “ให้อะไรได้บ้าง” จะพบว่าทุกคนสามารถเป็น “ผู้ให้” เริ่มด้วยการให้ตัวเอง
ให้ความรักแก่ตนเอง ปรารถนาดีต่อครอบครัวคนใกล้ตัว มีจิตสำนึกต่อสังคม
บางคนจมอยู่กับความคิดว่าตัวเองขัดสนขาดแคลนไปเสียทุกสิ่ง ทั้งๆ
ที่เขามีมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ตัวอ้วนท้วม ขับรถเก๋ง มีอาชีพ คนเช่นนี้แม้มีมากกว่าคนอื่นหลายเท่าก็ยังทุกข์ใจเครียดวิตกกังวล
โศกเศร้า ชีวิตเจอแต่เรื่องร้ายๆ ไม่เป็นสุข ต่อให้อ้วนกว่านี้นั่งรถคันใหญ่กว่านี้ก็ไม่ช่วยอะไร
น่าเห็นใจที่หลายคนกำลังทุกข์ใจกับการว่างงาน
ต้องปิดกิจการร้านค้าและไม่รู้อนาคต แต่ถ้ามัวจมอยู่กับความคิดเช่นนี้และคิดว่าขาดแคลนจะไม่ให้ผู้อื่น
ในทางกลับกันหากเริ่มมองหาที่จะเป็นผู้ให้ และให้ออกไป จะพบว่าแท้จริงแล้วเป็น
“ผู้ให้” ได้เสมอไม่ทางใดทางหนึ่ง เมื่อทุกคนแบ่งปัน การขาดแคลนจะเหลือน้อย ความพอเพียงจะเพิ่มขึ้น
คนที่ให้ออกไปจะพบว่าเขาสามารถให้ได้มากกว่าที่คิด
เป็นผลดีทั้งต่อผู้รับกับผู้ให้
หลายคนกำลังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส
แบ่งปันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ แก่ตนเองและสังคม
สรุป ชนะโควิด-19 ด้วยการให้ :
ในภาวะที่กำลังขาดแคลน
การให้เป็นกุญแจสำคัญที่จะเอาชนะเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้าทุกคนแบ่งปันแก่กันและกัน ทุกคนจะได้และมีเพียงพอ
การกักตุนความขาดแคลนจะหายไป รวมถึงความวิตกจริต จมอยู่ในความทุกข์โศก เพราะการ
“ให้” เปลี่ยนโลกจากความวิตกกังวลสู่โลกที่ปรารถนาดีต่อกัน ให้สิ่งดีกับตัวเองพร้อมกับให้สิ่งดีแก่สังคม
คือพลังอำนาจที่สามารถเอาชนะไวรัสตัวนี้
การเอาชนะโควิด-19
ต้องระดมคนทั้งหมดเอาชนะทั้งกายภาพกับจิตใจ การให้คือยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยได้
12 เมษายน
2020
ชาญชัย
คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน
คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่
24 ฉบับที่ 8554 วันอาทิตย์ที่ 12
เมษายน พ.ศ. 2563)
--------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :
โคโรนาไวรัส อู่ฮั่น “2019-nCoV” ความเข้าใจที่ถูกต้อง
การต่อสู้โคโรนาไวรัส อู่ฮั่น “COVID-19”
ไม่ต่างจากกรณีโรคซาร์ส ไข้หวัดนก ทุกครั้งแก้ด้วยการ “ควบคุมเชื้อโรค” ไม่ใช่ด้วยการฉีดวัคซีนหรือกินยา
เพราะเป็นเชื้อสายพันธุ์ใหม่และอยู่ในภาวะแพร่ระบาด
1. COVID-19 crisis could plunge half a billion people into
poverty, says charity Oxfam. (2020, April 9).
Channel News Asia. Retrieved from https://www.channelnewsasia.com/news/world/covid-19-crisis-coronavirus-poverty-world-12623644
2. Help the Hungry: New volunteers sign
up to help huge emergency food aid operation. (2020, April
7). The Independent. Retrieved from https://www.independent.co.uk/news/uk/home-news/coronavirus-help-the-hungry-volunteers-london-food-charity-felix-project-a9449461.html
3. People Are Finding Creative New Ways
To Support Each Other. (2020, April 3). Spiegel
Online. Retrieved from https://www.spiegel.de/international/world/corona-how-people-around-the-world-are-supporting-each-other-a-9d6b1e7d-b12b-432e-aad4-e814802243b4
4. Trump unveils social media hashtag to highlight Americans
helping one another amid coronavirus. (2020, April 7). USA Today. Retrieved from
https://www.usatoday.com/story/news/politics/2020/04/07/trump-unveils-hashtag-americaworkstogether-coronavirus-response/2952093001/
-----------------------------
ที่มาของภาพ : https://www.spiegel.de/international/world/corona-how-people-around-the-world-are-supporting-each-other-a-9d6b1e7d-b12b-432e-aad4-e814802243b4
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น