IoT เป็นระบบที่เก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่าง
สามารถสั่งการโดยอัตโนมัติ เป็นเหมือนผู้รู้ปัจจุบัน
ประเมินอนาคตและให้คำแนะนำว่าแต่ละเรื่องควรดำเนินการอย่างไร
Designed by Macrovector
Internet of
Things (IoT) คือ การที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เชื่อมโยงส่งข้อมูลถึงกันโดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบบอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ
มนุษย์สามารถสั่งการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านการเชื่อมต่อดังกล่าว เช่น
สั่งโอนเงินธนาคารผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ ตั้งค่าให้ชำระเงินในเวลาที่กำหนดแบบอัตโนมัติ
อุปกรณ์สวมข้อมือที่สามารถส่งข้อมูลสุขภาพถึงสถานพยาบาลทุกวัน
ข้อมูลสุขภาพถูกระบบติดตามตลอดเวลา หัวใจเต้นช้าลง ความดันโลหิตสูงขึ้น
ผู้ป่วยได้รับการดูแลใกล้ชิดแม้อยู่บ้าน
ประโยชน์ที่จะได้ :
ประการแรก
ประสิทธิผลสูงสุด
ประสิทธิภาพหรือประสิทธิผลคือประโยชน์ที่เอ่ยถึงมากสุด
เช่น ระบบจะตรวจสอบที่จอดรถจุดใดว่าง สามารถแนะนำให้ไปจอดจุดใกล้สุด
ตรงความต้องการมากที่สุด ช่วยประหยัดน้ำมัน ประหยัดเวลา ไม่เพียงแค่นั้นระบบสามารถ
“จอง” จุดจอดให้ด้วย หากเสียค่าจอดระบบจะหักเงินอัตโนมัติหลังลูกค้าเลือกแพ็กเกจจอดรถที่ต้องการ
ด้านการปลูกผัก/เลี้ยงสัตว์
ระบบจะตรวจจับทุกอย่างที่เกี่ยวข้องและประมวลผลทุกอย่างเข้าด้วยกัน เช่น
ความชื้นในดิน อุณหภูมิของน้ำ ความสว่าง แรงลม ภาวะความเครียดของสัตว์
เพื่อให้การปลูกผัก/เลี้ยงสัตว์ได้ผลสูงสุด ประหยัดมากสุด (ประหยัดค่าน้ำ ปุ๋ย
ไฟฟ้า โตไว)
การผลิตแบบทันเวลาพอดี
(JUST-IN-TIME: JIT) ระบบผลิตแบบทันเวลาพอดีมีมานานแล้ว
เนื่องจากสามารถคาดคะเนว่าต้องผลิตเท่าไหร่ ลดปริมาณสินค้าคงคลัง ระบบ IoT จะเก็บข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าต่างๆ ซื้อเมื่อไหร่ ราคาเท่าใด
เคยซื้ออะไรบ้าง จึงประเมินได้ว่าแต่ละคนในแต่ละวันจะบริโภคอะไร ปริมาณเท่าไหร่
ยี่ห้ออะไร IoT คือ JIT
ที่ทำงานประมวลผลรายวินาทีหรือนาที ทำให้ได้ JIT
ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ประการที่
2 “ตัดเสื้อพอดีตัว การตลาดพอดีคน”
ยกตัวอย่างรองเท้ากีฬา
หลายคนมีรองเท้ากีฬาเพื่อวิ่งออกกำลังกาย อย่างไรก็ตามแต่ละครั้งที่ใส่ใช่ว่าเพื่อวิ่งเสมอไป
บางครั้งอาจแค่เดินเร็ว บางคนแค่เดินชมสวน ฯลฯ ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมาย
สำหรับสุภาพบุรุษและสตรี มีหลายขนาด
หลายคุณภาพ แบบที่ดีกว่าคือการตัดเฉพาะเพื่อผู้บริโภคแต่ละคนอย่างเจาะจง
การใส่ชิปในรองเท้าจะรวบรวมข้อมูลการใช้ทุกครั้ง
รู้ว่าผู้ใส่ๆ เพื่อการใด วิ่งเร็วเท่าไหร่ แต่ละครั้งเดินไกลแค่ไหน
แรงกระแทกทั้งจากพื้นดินกับน้ำหนักผู้สวมใส่รุนแรงเพียงไร
สุดท้ายได้ข้อมูลว่ารองเท้าที่เหมาะแก่ผู้นั้นควรเป็นอย่างไร พื้นส้นเท้าควรหนากี่นิ้ว
ทำจากวัสดุอะไร ได้รองเท้าที่ตอบโจทย์ผู้ใส่แต่ละคนมากที่สุด
ไม่เพียงแค่นั้น
เมื่อรองเท้าเริ่มสึกบริษัทสามารถส่งข้อมูลถึงเจ้าของรองเท้าโดยตรง แนะนำให้เปลี่ยนคู่ใหม่
คู่ที่ปรับความหนาของแผ่นยางส้นเท้า ขนาดเท้า ฯลฯ ให้เหมาะสมตรงกับความเปลี่ยนแปลง
เช่น เน้นเดินมากกว่าวิ่ง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
นำเสนอรูปแบบสีสันที่คิดว่าชอบมากที่สุดและสอบถามลูกค้าอีกครั้งทางออนไลน์
พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับรองเท้าคู่ใหม่ด้วยราคาโดนใจ ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์นาน 4
เดือน เพราะบริษัทรู้ข้อมูลการจับจ่าย รู้รสนิยมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคคนนั้นๆ
นี่คือการใช้หลักตัดเสื้อพอดีตัว
การตลาดพอดีคนกับ IoT
ประการที่
3 ช่วยงานวิจัยทางการแพทย์
เซ็นเซอร์ที่ติดกับร่างกาย
การรับรู้ข้อมูลว่าผู้ป่วยบริโภคอะไรในแต่ละวัน กิจกรรมที่ทำ เหล่านี้จะให้คำตอบว่าทำไมจึงป่วย
คนแบบไหนอายุยืนมากกว่า สามารถประเมินได้ว่าแต่ละคนน่าจะป่วยเป็นโรคใดเมื่ออายุเท่าไร
น่าจะมีชีวิตยาวนานกี่ปี ให้คำแนะนำเพื่อสุขภาพแต่ละคนอย่างเจาะจง
ประการที่ 4 ระบบเตือนภัย
ทุกวันนี้มีระบบเตือนมลพิษทางอากาศอยู่แล้ว
ระบบในอนาคตจะส่งคำเตือนถึงแต่ละคนเมื่อกำลังจะไปหรือเข้าใกล้สถานที่มลพิษสูง พร้อมคำแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงอย่างไร
เด็กเล็ก
ผู้สูงวัย ผู้ป่วยภูมิแพ้ ผู้อ่อนไหวกับมลพิษจะได้รับคำเตือนเป็นพิเศษ
ประการที่
5 รู้ความคิดความต้องการของมนุษย์
ทุกวันนี้หากใครค้นหาสินค้าในอินเตอร์เน็ท
ระบบจะจดจำว่าคุณค้นหาสินค้าอะไร ค้นถี่แค่ไหน (มีความตั้งใจแค่ไหน) พฤติกรรมการค้นสอดคล้องกับการซื้อมากน้อยเพียงไร
(เช่น ค้นหาโทรศัพท์มือถือระดับราคา 1 หมื่นบาท
สุดท้ายสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวจริง)
ระบบสามารถจดจำกว่าซื้อโทรศัพท์มือถือครั้งล่าสุดเมื่อใด
บัดนี้กำลังค้นหาสินค้านี้อีกรอบ มีความเป็นไปได้ว่ากำลังคิดจะซื้อใหม่
จะเห็นว่าด้วยการหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ท
ประวัติการซื้อ ทำให้ IoT รู้ว่าเขาผู้นั้นกำลังคิดอะไร การตลาดในอนาคตอาจเป็นการที่บริษัทโทรศัพท์มือถือส่งโฆษณาตรงถึงผู้บริโภคคนนั้น
เสนอสินค้าในราคาพิเศษ เช่นเดียวกับที่บริษัทคู่แข่งรับรู้ข้อมูลโฆษณาดังกล่าวจึงรีบเสนอสินค้าคุณภาพใกล้เคียงในราคาที่น่าจูงใจกว่า
ไม่เพียงเท่านั้น หลายบริษัทอาจร่วมมือเสนอแพ็กเกจสินค้าพร้อมๆ
กันหลายตัวในวันที่เงินเดือนออก เพื่อให้ส่วนลดสูงสุด โดยอาศัยการประมวลผลจาก
IoT
ประการที่
6 ข้อมูลระดับองค์กร ประเทศ โลก
เมื่อรวบรวมข้อมูลทุกหน่วยเข้าด้วยกัน
ผู้บริหารองค์กรจะได้รับข้อสรุปการประมวลเป็นรายนาทีหรือชั่วโมง
เป็นข้อมูลที่ครบถ้วนทุกอย่างทุกด้าน รู้ทันทีว่าวันนี้บริษัทกำไรเท่าไหร่
ควรเพิ่มหรือลดกำลังผลิตอย่างไร
ถ้าเป็นระดับประเทศ
จะรู้ว่าวันนี้มีผู้ป่วยระยะสุดท้ายกี่ราย คนกินยาตรงเวลากี่คน เก็บภาษีได้กี่บาท
มีผลต่อระดับ GDP ประเทศอย่างไร
ปริมาณฝนที่ตกวันนี้จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมเพียงไร ได้คำแนะนำว่าควรบริหารประเทศอย่างไร
ข้อมูลระดับโลกคือการรวมข้อมูลระดับประเทศเข้าด้วยกัน
ช่วยประเมินพฤติกรรมประชากรโลกวันนี้จะทำให้โลกร้อนเร็วขึ้นเท่าใด
น่าจะเกิดภัยพิบัติที่เมืองใดประเทศใด
หลายประเทศกำลังออกแบบหรือกำลังสร้างเมืองอัจฉริยะ
(Smart City) หนึ่งในความพิเศษคือเมืองที่ส่งเสริมระบบ IoT ข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างที่อยู่ในเมืองถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลตลอดเวลา
อีกไม่นานเราจะเห็นผลงานความอัจฉริยะดังกล่าว ข้อดีข้อเสียที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าติดตาม
รู้ความเป็นไปทุกอย่าง ประเมินผล
คาดการณ์ทุกเรื่อง :
ประวัติศาสตร์โลกบันทึกว่ามนุษย์ในยุคดึกดำบรรพ์หวาดกลัวต่อปรากฏการณ์ธรรมชาติ
แผ่นดินไหว ฟ้าผ่า น้ำท่วม ต่อมาเริ่มเรียนรู้ว่าน้ำมากช่วงไหน น้ำน้อยฤดูใด มนุษย์เริ่มควบคุมความเป็นไปของธรรมชาติ
เริ่มสร้างระบบชลประทาน สามารถกักเก็บน้ำ สร้างฝายป้องกันท่วม
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีช่วยให้มนุษย์เข้าใจและเข้าควบคุมมากขึ้นตามลำดับ เราสร้างฝนเทียมยามแล้ง
สร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่ มีระบบป้องกันน้ำท่วมเมือง ฟ้าผ่าไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรืออธิบายไม่ได้อีกต่อไป
สร้างตึกสูงที่ทนต่อแผ่นดินไหว
ไม่เพียงควบคุมสิ่งแวดล้อมภายนอก
มนุษย์ยังพยายามควบคุมความเป็นไปของร่างกาย
หายารักษาตั้งแต่สมุนไพรจนถึงสังเคราะห์ยาเคมี ศึกษายีน ตัดต่อพันธุกรรม
ค้นคว้ายาที่เข้ารักษาถึงระดับเซลหรือส่วนของเซล
Internet of Things (IoT) คือความก้าวหน้าอีกขั้น เพราะระบบจะเข้าถึงอย่างลึกถึงระดับเซลและครอบคลุมเกินกว่าที่มนุษย์จะรู้และเข้าใจได้ด้วยตัวเอง
รวบรวมข้อมูลของทุกคน ข้อมูลทุกอย่างของชุมชน ตรวจวัดข้อมูลสิ่งแวดล้อมต่างๆ แล้วประมวลทุกอย่างเข้าด้วยกัน
เพื่อให้รู้ว่ากำลังเกิดอะไร คาดการณ์อนาคตตั้งแต่ระดับบุคคลจนถึงระดับโลก
IoT
จึงเป็นเหมือนผู้รู้ปัจจุบัน
ประเมินอนาคตและให้คำแนะนำว่าแต่ละเรื่องควรดำเนินการอย่างไร และพึงเข้าใจว่าการใช้งานอาจเป็นทางบวกหรือลบ ขึ้นกับว่ายึดมุมมองใด
เป้าหมายการนำไปใช้
23 ธันวาคม
2018
ชาญชัย
คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน
คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่
23 ฉบับที่ 8079 วันอาทิตย์ที่ 23
ธันวาคม พ.ศ.2561)
-----------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :
ทุกวันนี้คนนับพันล้านยอมรับและใช้สมาร์ทโฟน
โซเชียลมีเดีย ในอนาคตการฝังไมโครชิปในร่างกายน่าจะเป็นที่นิยมแพร่หลายเช่นกัน
ด้วยประโยชน์ของผู้ใช้ ผู้ให้บริการและผู้ควบคุมระบบ
บรรณานุกรม :
1. ทำความรู้จักกับ Internet of Things.
(2018, March 9). Aware Corporation Limited. Retrieved from
https://www.aware.co.th/iot-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/
2. Chaudhuri, Abhik. (2019). Internet of Things, for
Things, and by Things. New York: Taylor & Francis Group.
ความคิดเห็น
โพสต์ความคิดเห็น