ประเทศจีนกำลังเคลื่อนตัวสู่สังคมไร้เงินสด (cashless society) นับวันคนจีนใช้เงินสดซื้อของน้อยลง จะจ่ายผ่านแอปพลิเคชัน (application) บนโทรศัพท์มือถือ
ขอเพียงมีโทรศัพท์มือถือก็สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
สามารถเดินทางไปไหนมาไหนทั้งโดยรถโดยสารประจำทางกับรถไฟใต้ดิน
ใช้จ่ายซื้อของกินของใช้ แม้กระทั่งบริจาคเงินให้วัดหรือให้นักแสดงข้างถนน
นับวันคนจีนจะถือเงินสดน้อยลง
ในเวลาเพียง 4 ปี ตัวเลขใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลเพิ่มขึ้น 20 เท่า หรือเท่ากับ 2.9
ล้านล้านหยวน ผู้อาศัยในกรุงปักกิ่งคนหนึ่งทำการทดสอบกับตัวเอง ติดธนบัตร 100
หยวนในกระเป๋า ผ่านไป 1 เดือนปรากฏว่าเงินยังอยู่ครบเท่าเดิม
นับวันจีนจะกลายเป็นสังคมไร้เงินสดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ธนบัตรกับวิธีชำระเงินแบบเดิม (เช่น บัตรเครดิต) จะยังคงเหลือใช้อยู่บ้าง
สหรัฐฯ ใช้อินเทอร์เน็ตมาแล้ว 42 ปี ระบบพัฒนาก้าวไกลมาก
ชาวอเมริกันคุ้นชิน ส่วนจีนใช้อินเทอร์เน็ตมาแล้ว 28 ปี ไม่อาจสู้สหรัฐฯ
เรื่องความก้าวหน้าของระบบ แต่สังคมจีนกำลังนิยมและเรียนรู้พัฒนาอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันมีผู้ใช้ถึง 710 ล้านคน เท่ากับผู้ใช้ของอินเดียกับสหรัฐฯ 2
ประเทศรวมกัน
ปี 2016
จีนมีประชากร 1,380 ล้านคน
เท่ากับว่ายังมีคนจีนอีกนับร้อยล้านที่จะเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในอนาคต
ในขณะที่สหรัฐฯ อิ่มตัวแล้ว
จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น
คุณค่าของการใช้ เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) เป็นแรงกระตุ้นให้บริษัทจำนวนมากมายทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยีกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
ภายใต้การส่งเสริม เปิดกว้างแก่บริษัทต่างๆ ตามนโยบายรัฐบาล ก่อให้เกิดการแข่งขัน
เกิดนวัตกรรมไม่สิ้นสุด
ปัจจุบันจีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
นักวิชาการหลายคนคิดว่าอีกไม่นานจะแซงสหรัฐฯ เศรษฐกิจดิจิทัลกำลังเป็นอีกปัจจัยส่งเสริมเศรษฐกิจจีน
การใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ
QR codes การสแกนใบหน้า คือส่วนหนึ่งของอนาคต
ควบคู่กันนี้คือการวางระบบควบคุม
ซึ่งจะเข้มข้นขึ้น มีมาตรฐานสูงขึ้น จนเทียบเท่าสากลในที่สุด
มาตรฐานเหล่านี้เป็นอีกปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจดิจิทัล
ในอนาคตระบบการชำระเงินผ่านดิจิทัลจะมีเสถียรภาพสูง
มีมาตรฐานเดียวกัน
ใครไปถึงก่อนได้ใช้ประโยชน์ก่อน :
ควบคู่กับการเติบโตภายในประเทศ
การแข่งขันจากต่างประเทศเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
จีนกำลังอยู่ในสภาพการณ์เช่นนี้เหมือนกัน
บริษัทสหรัฐฯ กำลังคิดหาทางทำกิจการอี-เพย์เม้นท์ (e-Payment) ในจีน PayPal ของสหรัฐฯ หวังให้ชาติต่างๆ
(ที่ไม่ใช่จีน) ใช้ระบบของตนเมื่อต้องการซื้อสินค้าในอี-มาเก็ตของจีน
เหตุเนื่องจากในปี
2016 บริษัท PayPal ค้นพบว่าสมาชิกอเมริกันกับอังกฤษของตนถึง
1 ใน 3 ซื้อสินค้าในเว็บไซต์จีน PayPal จึงทำสัญญากับบริษัท Baidu ของจีน เพื่อให้สมาชิกสามารถซื้อสินค้าเว็บไซต์จีนผ่านระบบ PayPal แต่ยังไม่เป็นที่นิยมนัก
ในประเทศที่นิยมใช้จ่ายผ่านระบบอี-เพย์เม้นท์
การพูดถึงสังคมไร้เงินสดไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ประเทศจีนกำลังเป็นตัวอย่างของสังคมไร้เงินสด
เห็นถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล นี่คือทิศทางของเศรษฐกิจโลก
ใครไปถึงก่อนได้ใช้ประโยชน์ก่อน ไม่ต่างจากการใช้คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต
ที่ใครใช้เป็นก่อนได้ประโยชน์ก่อน
คำถามจึงไม่อยู่ที่ควรใช้หรือไม่ แต่อยู่ที่ได้ศึกษาแล้วหรือยัง
เตรียมตัวเตรียมใจที่จะใช้และใช้มากขึ้นหรือไม่
8 ตุลาคม 2017
ชาญชัย คุ้มปัญญา
-----------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :
นายกฯ
สิงคโปร์แสดงวิสัยทัศน์ว่าประชาคมอาเซียนควรสร้างเครือข่ายอี-คอมเมิร์ซที่เชื่อมโยงทั่วอาเซียน
ผู้เตรียมพร้อมและใช้ก่อนเป็นผู้ได้ประโยชน์ก่อน
ดังเช่นสิงคโปร์ที่รัฐบาลผลักดันอย่างจริงจังมาแล้วถึง 19 ปีเต็ม
บรรณานุกรม:
1. China’s Internet economy younger, more vibrant than US.
(2017, September 14). Global Time. Retrieved from http://www.globaltimes.cn/content/1066309.shtml
2. PayPal seeking a place beside Alipay and WeChat in
China’s booming online payment market. (2017, September 7). South China
Moring Post. Retrieved from http://www.scmp.com/tech/china-tech/article/2110055/paypal-seeking-place-beside-alipay-and-wechat-chinas-booming-online
3. People's
Daily Comments: QR code, face scan…and more easier payment methods to expect.
(2017, September 14). People’s Daily. Retrieved from http://en.people.cn/n3/2017/0914/c90000-9268719.html
-----------------------------
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น