โลกอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนระบบพลังงาน
:
ในอดีตโลกบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นพลังงานหลัก
เคยเป็นยุคทองของโอเปก (Organization of Petroleum Exporting Countries:
OPEC) ต่อมาการใช้ก๊าซธรรมชาติสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อระบบพลังงานอยู่ระยะหนึ่ง
แต่ระบบพลังงานโลกไม่หยุดอยู่เท่านี้ พลังงานทางเลือกหลายตัวกำลังก้าวขึ้นมา
นำโลกสู่ยุคการปรับเปลี่ยนระบบพลังงานอีกครั้ง
ปัจจัยตัดสินสำคัญคือ
การลงทุนเพื่อค้นหาและขุดเจาะน้ำมันจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ จะทรงตัวหรือจะถดถอย
นักวิชาการคิดว่าหากกำลังการผลิตลดลง ต้นทุนการกลั่นจะสูงขึ้น ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น
ยิ่งแข่งขันกับพลังงานอื่นๆ ไม่ได้
การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น
แพร่หลายมากขึ้น เป็นอีกประเด็นที่ต้องเอ่ยถึง เพราะส่งผลต่อตลาดพลังงานอื่นๆ
ครั้งหนึ่งถ่านหินคือเจ้าแห่งพลังงาน ต่อมาเป็นน้ำมัน
จากนี้ไปไฟฟ้าคือเจ้าแห่งพลังงาน
พลังงานไฟฟ้ามีจุดเด่นคือสามารถผลิตจากพลังงานอื่นๆ
แทบทุกชนิด เท่ากับเป็นพลังงานที่ใช้ไม่มีวันหมด (ต่างจากน้ำมันเชื้อเพลิง ถ่านหิน
ยูเรเนียมที่มีวันหมด) การใช้แพร่หลายมากขึ้นทั้งระดับครัวเรือนกับอุตสาหกรรม
และที่กำลังจะส่งผลต่อตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงคือรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
หลายประเทศให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะจีน ยุโรปตะวันตก บรรษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่หลายรายมีนโยบายผลิตรถไฟฟ้าอย่างจริงจัง
ความก้าวหน้าของพลังงานแสงอาทิตย์
การใช้โซล่าเซลล์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ของพลังงานแสงอาทิตย์กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ในอนาคตทุกอาคารทุกครัวเรือนจะผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้เอง
ปัญหาเดิมของพลังงานแสงอาทิตย์ :
เป็นที่ทราบกันว่าปัญหาดั้งเดิมของพลังงานแสงอาทิตย์คือต้นทุนสูง
ไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แม้ราคาจะลดลงบ้างแต่ยังสู้ราคาพลังงานอื่นไม่ได้ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าในอดีตจึงพบเฉพาะพื้นที่ชนบทห่างไกล
ที่การติดตั้งระบบสายไฟฟ้าใช้ทุนสูงมากจนการใช้โซลาร์เซลล์ประหยัดกว่า
เรื่องแสงแดดมีน้อยหรือไม่มีเป็นเวลานาน
เช่น เป็นฤดูฝน ท้องฟ้ามีเมฆบังเกือบตลอดเวลา เป็นอีกอุปสรรคที่พบบ่อย ดังนั้นพลังงานแสงอาทิตย์จึงมักเป็นระบบเสริม
ต้องใช้ร่วมกับแหล่งพลังงานหลักอื่นๆ ต้องติดตั้ง 2 ระบบพลังงาน
สร้างปัญหาเรื่องต้นทุนโดยเฉพาะเมื่อแรกเริ่มติดตั้งระบบ
แต่ปัญหาเรื่องความคุ้มค่ากำลังค่อยๆ หมดไป นับวันต้นทุนถูกลงและจะยิ่งมากขึ้นในอนาคต
“The Project”
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
(UAE) เป็นประเทศไม่ใหญ่มาก มีประชากร 6 ล้านคน (ข้อมูล 2016)
คนทั่วไปมีฐานะดี มีรายได้สูงกว่ากลุ่มประเทศยุโรปที่พัฒนาแล้ว ด้วยเหตุผลหลักคือเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันกับก๊าซธรรมชาติ
แต่ความเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันกำลังเปลี่ยนไป
เมือง Sweihanไม่ไกลจากกรุงอาบูดาบี กำลังก่อสร้างโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดของโลก
โครงการนี้ชื่อ “The Project” มีกำลังผลิต 1.2 gigawattsใช้งบประมาณ 1,200 ล้านดอลลาร์ ขนาดพื้นที่ราว 4 เท่ากับของใจกลางเมือง
ต้นคิดโครงการคือนายมาร์ค เจคอบสัน (Mark Jacobson) ที่คิดว่าเมื่อถึงปี
2050 สหรัฐกับประเทศต่างๆ จะพากันผลิตพลังงานของตัวเอง เป็นพลังงานหมุนเวียน ( Renewable
Energy) เช่น ลม แสงแดดและน้ำ เป็นระบบพลังงานที่ราคาถูกกว่าเดิม
และเป็นพลังงานสะอาดทั้งหมด
เจคอบสันเห็นว่าเมื่อถึงเวลานั้นเครื่องจักรทุกอย่างจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน
พลังงานไฟฟ้าจะเป็นตัวเด่นที่สุด เครื่องบินจะใช้พลังงานไฮโดรเจน เมื่อถึงยุคนั้นจะไม่มีกลุ่มชุมนุมประท้วงต่อต้านการสร้างเขื่อน
ปัญหาจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์
โครงการ
"The Project" เป็นของรัฐ
ภายใต้การกำกับของหน่วยงานหลัก The Abu Dhabi Water and Electricity
Authority (ADWEA) ให้บริษัทเอกชนทั่วโลกเข้ามาแข่งขันออกแบบและร่วมก่อสร้างโครงการ
รวมถึงการบริการจัดการในอนาคต
"The
Project" เป็นชื่อโครงการใหญ่ ประกอบด้วยโครงการย่อยๆ จำนวนมาก
เป้าหมายหลักคือ ต้องการให้ประเทศใช้พลังงานหลากหลาย ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน
พลังงานสะอาด อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่พึ่งพาพลังงานน้ำมันกับก๊าซธรรมชาติอีกต่อไป
นี่คืออีกโครงการยักษ์ใหญ่ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แก่ประเทศนี้
ดูไบ (Dubai) เป็นอีกเมืองที่โดดเด่น
บ้านเรือนอาคารต่างๆ หันมาติดแผงโซล่าเซลล์บนหลังคา ด้วยการสนับสนุนจากรัฐ รัฐบาลจูงใจโดยกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์สูงจนคุ้มค่าการลงทุน
แผนนี้เริ่มปี 2015 ตั้งเป้าว่าก่อนสิ้นปี 2030 ทุกหลังคาจะมีแผงโซล่าเซลล์ อีกทั้งกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จะเชื่อมต่อกันทั้งเมือง
กำลังไฟส่วนเกินไม่สูญเปล่า ระบบจะคำนวณเครดิตให้
เฉพาะเมืองดูไบ
ตั้งเป้าว่าก่อนสิ้นปี 2030 ร้อยละ 25 ของพลังงานที่ใช้จะเป็นพลังงานสะอาด
และเมื่อถึงปี 2050 ร้อยละ 75 จะเป็นพลังงานสะอาด
ทั้งหมดนี้
เพราะรัฐบาล UAE ตั้งเป้าว่าจะเป็นผู้นำด้านการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในอนาคตจะลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น
รายงาน UAE State of Energy Report 2017 ระบุว่าก่อนสิ้นปี 2021 ร้อยละ 27 ของพลังงานที่ผลิตทั้งประเทศจะเป็นพลังงานสะอาด
และเป็นร้อยละ 50 เมื่อถึงปี 2050 ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึงร้อยละ 70
ย้อนหลัง
3 ทศวรรษก่อน โลกอาศัยพลังงานฟอสซิล (fossil fuels) เป็นหลัก
อันประกอบด้วย น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน เสริมด้วยพลังงานนิวเคลียร์และพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อน
ปีที่แล้ว (2016) พลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานของโลกถึงร้อยละ 10
(ในจำนวนนี้ร้อยละ 7 เป็นพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อน) จากนี้อีก 3 ทศวรรษ
ระบบพลังงานจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
พลังงานฟอสซิลกับนิวเคลียร์จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะมีที่ใช้น้อยมาก
รัฐบาล UAE สนใจพลังงานแสงอาทิตย์เพราะประเทศในคาบสมุทรอาหรับมีศักยภาพสูงมาก
มีอุปสงค์สูง คนต้องการใช้ไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศในตอนกลางวัน
ตรงข้ามกับกลุ่มยุโรปที่อากาศหนาว ต้องการไฟฟ้าเพื่อปรับอุณหภูมิในยามค่ำคืน
นอกจากนี้ ยังคิดใช้พลังงานแสงอาทิตย์กลั่นน้ำ
น้ำดื่มที่หายากมีราคาแพงในแถบนี้
UAE เริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างจริงจังเมื่อปี 2013 นี้เอง
เมื่อดูจากเป้าหมายและโครงการที่กำลังก่อสร้างบ่งชี้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญสูงมาก
ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กำลังเป็นพลังงานหลักอีกตัวหนึ่ง ทั้งๆ
ที่ประเทศนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ
เป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ พึ่งพาการส่งออกนี้เป็นรายได้หลักของประเทศ เป็นอีกหลักฐานว่าระบบพลังงานโลกกำลังเปลี่ยนแปลง
ถ้ามองในระดับโลก
อนาคตจะเป็นระบบ “global grid” เข้าใจง่ายๆ
ว่าสายไฟฟ้าของประเทศต่างๆ จะเชื่อมโยงกัน บริหารจัดการโดยกลไกตลาดเสรี
ทุกประเทศมีโอกาสซื้อหรือขายไฟฟ้า
ตลาดพลังงานไฟฟ้าจะกลายเป็นตลาดระดับโลก ลงทุนโดยนักลงทุนนานาชาติ
ทุกวันนี้จะเห็นการเชื่อมต่อระบบพลังงานระหว่างประเทศ ภายในภูมิภาค
ที่สุดแล้วจะเป็นการเชื่อมต่อทั้งโลก
ลดต้นทุนและความยั่งยืน :
รัฐบาล UAE บรรยายว่าโครงการ “The Project” ของตนเป็นโครงการที่ผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ที่มีต้นทุนต่ำสุดในขณะนี้
นั่นหมายความว่าสามารถขายให้ประชาชนในราคาถูกที่สุด รัฐบาลช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน
ลดค่าครองชีพ ลดหนี้สิน ลดต้นทุนแก่สังคมโดยรวม เพิ่มศักยภาพความสามารถแข่งขันแก่ทุกคนทุกฝ่าย
ไม่ว่าจะเอกชนหรือราชการ
คนในยุคนี้ส่วนใหญ่ยังผูกพันกับท้องถิ่น
ชาติ อาจไม่ตระหนักว่ามีการแข่งขันระดับโลก แม้กระทั่งพลังงานไฟฟ้า
ในอนาคตทุกประเทศ ทุกบริษัทจะแข่งกันว่าใครผลิตได้ถูกกว่า การปกป้องจากภาครัฐอาจทำไม่ได้มากดังเช่นอดีต
โครงการพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นแบบอย่างที่ดี
ปัจจุบันเป็นที่ทราบดีกันว่าพลังงานทางเลือก พลังงานหมุนเวียนกำลังก้าวขึ้นมาทดแทนพลังงานฟอสซิลอย่างรวดเร็ว
เพราะต้นทุนต่ำลงมาก ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน แม้กระทั่งประเทศส่งออกน้ำมันอย่าง UAE ยังยอมรับ ที่น่าชมเชยคือ รัฐบาล UAE
ไม่นิ่งเฉย ไม่รอให้เกิดปัญหาก่อนจึงแก้ไข เพียงแค่คิดได้ว่าจะเป็นปัญหาก็ลงมือปรับปรุงประเทศทันที
และทำอย่างจริงจัง
การปรับเปลี่ยนระบบพลังงานเป็นตัวอย่างหนึ่ง ถ้ามองภาพกว้างกว่านี้ รัฐบาล
UAE ไม่คิดพึ่งพาการส่งออกน้ำมันเพียงอย่างเดียว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพยายามพัฒนาทุกด้าน สร้างโอกาสใหม่ๆ เช่น พัฒนาเมืองสู่ความทันสมัยระดับโลก
หวังเป็นศูนย์กลางการค้าโลก ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เศรษฐกิจปัจจุบันจึงหลากหลายกว่าเดิมอย่างชัดเจน
สิ่งที่ลงทุนในวันนี้ย่อมได้เก็บเกี่ยวในวันข้างหน้า
ถ้าเลือกลงทุนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ย่อมเก็บเกี่ยวผลดีในอนาคต และจะเห็นผลชัดถ้าลงมือทำไม่ปล่อยให้สายเกินแก้
นี่คือแนวทางแห่งความยั่งยืน เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลและพลเมืองทุกคน
3 กันยายน 2017
ชาญชัย คุ้มปัญญา
(ตีพิมพ์ใน คอลัมน์ “สถานการณ์โลก” ไทยโพสต์ ปีที่ 21 ฉบับที่ 7604 วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ.2560)
-----------------------------
บรรณานุกรม:
1. Abu Dhabi Water & Electricity Authority (ADWEA). (2016, April 26). Press Release. Retrieved
from http://www.adwea.ae/en/home.aspx#
2. Central
Intelligence Agency.(2016). United Arab Emirates.In The
World Factbook. Retrieved from
https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/ae.html
3. Goldthau, Andreas (Ed.). (2013).The Handbook of Global
Energy Policy. UK: John Wiley & Sons Ltd.
4. Power systems based on 100% renewables is nor feasible or
realistic. (2017, July 17). The National. Retrieved
from
https://www.thenational.ae/business/energy/power-systems-based-on-100-renewables-is-nor-feasible-or-realistic-1.609517
5. Schlager, Neil. Weisblatt, Jayne. (Ed.). (2006). Alternative
Energy. USA: Thomson Gale.
6. Solar rooftops in Dubai double in less than a year.
(2017, July 17). The National. Retrieved from
https://www.thenational.ae/business/property/solar-rooftops-in-dubai-double-in-less-than-a-year-1.622312
7. United Arab Emirates Ministry of Energy. (2017).
UAE State of Energy Report 2017.Retrieved from http://dcce.ae/uae-state-of-energy-report-2017/
-----------------------------
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น