การฉีดวัคซีนเป็นวิธีป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่ดีที่สุด ลดคนป่วยหนักเสียชีวิต ช่วยให้ประเทศเปิดออก สังคมเศรษฐกิจเดินหน้าซึ่งเป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าการรักษาสุขภาพ
กรมบริการสุขภาพแห่งรัฐเท็กซัส
(Texas Department of State Health Services) เสนอรายงานล่าสุดเมื่อวันที่
8 พฤศจิกายน เปรียบเทียบคนที่ฉีดวัคซีนครบเข็มกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
พบว่าคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเสี่ยงเสียชีวิตหากติดโควิด-19 มากกว่าคนที่ฉีดวัคซีนถึง
20 เท่า\
รายงานชี้ว่าในช่วงวันที่ 4 กันยายนถึง 1 ตุลาคม 81.3% ของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 คือพวกที่ยังไม่ฉีดวัคซีน และส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 40-55 ปี
ส่วนผู้ที่มีอายุตั้งแต่
75 ปีขึ้นไปและไม่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่า 12
เท่าเมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกันที่ฉีดวัคซีนแล้ว
จากข้อมูลนี้คนที่ควรฉีดมากที่สุดคือคนระหว่างอายุ
40-55 ปี
ด้วยเหตุผลว่าเป็นช่วงวัยที่ตายมากสุดเมื่อเทียบคนกันวัยเดียวกันที่ฉีดวัคซีนครบเข็ม
ในแง่ของการติดเชื้อ
คนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีนถึง 13 เท่า หมายความว่าวัคซีนป้องกันติดเชื้อได้ระดับหนึ่ง
ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถึงกระนั้นลดความเสี่ยงได้มากถ้าเทียบกับคนที่ไม่ฉีดวัคซีน
ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงช่วยลดโอกาสติดเชื้อเสียชีวิตได้จริง และปกป้องทุกวัยแม้คนสูงอายุ
ใช้การได้ดีกับทุกสายพันธุ์รวมทั้งสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดหนักในขณะนี้
ความเข้าใจผิด :
1.
วัคซีนไม่มีประโยชน์ เพราะฉีดแล้วยังติดเชื้อและเสียชีวิตได้
เป็นความจริงที่ฉีดวัคซีนครบเข็มแล้วอาจจะติดเชื้อและเสียชีวิต
แต่รายงานนี้และอีกหลายรายงานชี้ชัดว่า
แม้ติดเชื้อแต่โอกาสป่วยหนักเสียชีวิตน้อยกว่าคนไม่ฉีดวัคซีนนับสิบเท่า
ประโยชน์ของวัคซีนมีจริง โดยยอมรับว่าประสิทธิภาพวัคซีนไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่มีวัคซีนตัวใดที่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์
บริษัทเจ้าของวัคซีนทุกยี่ห้อล้วนยอมรับข้อนี้ วัคซีนจะได้ผลมากน้อยขึ้นกับการตอบสนองทางร่างกายของแต่ละคน
มีบ้างที่บางคนไม่ตอบสนองวัคซีนแต่เป็นคนส่วนน้อย
2.
คนเสียชีวิตน้อยมาก
บางคนอ้างว่าตัวเลขคนเสียชีวิตน้อยมาก
จึงคิดว่าไม่ฉีดวัคซีนก็ได้
เรื่องนี้ต้องเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า ตั้งแต่โลกรู้จักโควิด-19
ก็พบว่าคนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อจะไม่ตาย เหมือนโรคหวัดที่เป็นแล้วหายเองได้
ส่วนน้อยเท่านั้นที่ป่วยหนักเสียชีวิต
ในการระบาดครั้งแรกสุด
สัดส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่าง 3-5%
ต้องย้ำว่าเป็นช่วงที่ยังไม่มีวัคซีน ไม่มียารักษา แพทย์นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาหาวิธีรักษาดูแลคนป่วย
จากนั้นผู้ป่วยหนักลดลงตามลำดับ
เมื่อรู้จักเชื้อโรคนี้มากขึ้น รู้ว่าเชื้อโควิด-19 มุ่งทำลายปอด การดูแลผู้ป่วยต้องเน้นดูแลระบบหายใจ
เน้นป้องกันรักษาผู้สูงวัยและกลุ่มเสี่ยง
สัดส่วนคนป่วยหนักเสียชีวิตทยอยลดลงอีก
เมื่อค้นพบว่ายาบางตัวช่วยได้ ลดลงต่อเนื่องนับจากปลายปี 2020 เมื่อเริ่มใช้วัคซีน
นี่เป็นเหตุผลว่านับจากเริ่มต้นระบาดเมื่อเกือบ
2 ปีที่แล้ว โลกรู้จักวิธีรักษาดูแลคนไข้ดีขึ้นตามลำดับ คนฉีดวัคซีนมากขึ้น เป็นเหตุผลว่าทำไมสัดส่วนหรืออัตราผู้เสียชีวิตจึงลดลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม นับจากเกิดโรคระบาด มีผู้เสียชีวิตที่รายงานกว่า 5 ล้าน ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจริงมากกว่านี้
เฉพาะสหรัฐฯ ประเทศเดียวมีรายงานเสียชีวิตเกือบ 780,000 คน และยังมีคนตายเพิ่มทุกวัน
----------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง :ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วยังเป็นพาหะแพร่เชื้อได้หรือไม่
หลายคนสงสัยว่าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วยังต้องรักษาระยะห่างกับคนในครอบครัว เพื่อนที่ทำงานหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
อ้างอิง :
https://www.dshs.texas.gov/immunize/covid19/data/Cases-and-Deaths-by-Vaccination-Status-11082021.pdf
https://www.worldometers.info/coronavirus/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น